สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ว่าสำนักงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยืนยันในรอบวันที่ผ่านมา 124 คน เป็นผู้ติดเชื้อภายในชุมชนทั้งหมด เพิ่มสถิติผู้ติดเชื้อสะสมเป็นอย่างน้อย 7,164 คน ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 121 คน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 61 ราย
นางกลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวถึงจำนวนผู้ป่วยในรอบวันล่าสุด ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ นับตั้งแต่เผชิญกับวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ เมื่อต้นปีที่แล้ว ว่าผู้ป่วยในชุมชนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้เมืองซิดนีย์และอีก 3 เขตที่อยู่ติดกัน อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา และกำหนดการ ณ เวลานี้ คือสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ค.ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม เบเรจิกเลียนยืนยันว่า เธอจะยกเลิกหรือผ่อนคลายมาตรการ เมื่อจำนวนผู้ป่วยรายวัน "เข้าใกล้เลขศูนย์" และ "อยู่ในระดับทรงตัว" เท่านั้น ทั้งนี้ เธอขอให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุดด้วย โดยเปรียบเทียบว่า "วัคซีนคือกุญแจสู่เสรีภาพ"
ขณะที่รัฐวิกตอเรียซึ่งอยู่ติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 28 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อในชุมชน 26 คน นายดาเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย สั่งขยายล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐ และเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรเลียรองจากเมืองซิดนีย์ ต่อไปอีกอย่างน้อย 5 วัน จนถึงวันที่ 27 ก.ค.นี้.
เครดิตภาพ : REUTERS