นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนการกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาหนี้ กยศ. ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 เพื่อเพิ่มขอบเขตในการบริหาร รวมถึงให้อำนาจกองทุนฯ เข้าไปช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี หรือศาลมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว หรืออยู่ในระหว่างการบังคับคดี ให้สามารถเข้าร่วมการแก้ไขหนี้ แปลงหนี้ เพื่อกลับมาผ่อนชำระได้อีกครั้ง ซึ่งล่าสุดได้ผ่านสภาวาระ 1 แล้ว
“ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กยศ.ไม่ได้ฟ้องลูกหนี้เลย เพราะต้องการช่วยเหลือลูกหนี้ในภาวะวิกฤติ แต่ยกเว้นคดีที่ใกล้หมดอายุความ กยศ.จำเป็นต้องฟ้องร้อง แต่ในระหว่างการฟ้องร้องลูกหนี้ก็สามารถมาไกล่เกลี่ยการผ่อนชำระหนี้ได้ อยากให้มองว่าเมื่อเป็นหนี้ก็ต้องมาใช้หนี้ และหนี้ กยศ.นั้น เมื่อมาใช้หนี้แล้ว ก็สามารถนำกลับไปปล่อยกู้ยืมทางการศึกษาในรุ่นต่อไปได้”
อย่างไรก็ตามสำหรับลูกหนี้ หรือ ผู้ค้ำประกันที่ถูกฟ้องคดี ระหว่างที่รอกฎหมายฉบับดังกล่าว ก็จะให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้เลย นอกจากนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวจะเปิดให้ลูกหนี้ที่ทำการผ่อนชำระหนี้ได้ในระยะหนึ่งสามารถปลดล็อกผู้ค้ำประกันได้ โดยไม่ต้องจนชำระหนี้ครบ
“ถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาฯ ผู้ค้ำประกันก็จะสบายใจได้ ว่าไม่มีการไปฟ้องร้องยึดทรัพย์ เพราะว่าจะไม่มีการค้ำประกัน แต่จะมีเงื่อนไขที่ผู้กู้ต้องชำระหนี้ด้วยตัวเอง ส่วนผู้ค้ำประกันที่ผ่านมา หากมีปัญหาก็ให้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับ กยศ.”
ทั้งนี้ปัจจุบัน กยศ. มีลูกหนี้ประมาณ 6 แสนราย โดยมีสัดส่วนหนี้เสียประมาณ 40% อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กยศ.ยังได้ลดเบี้ยปรับสำหรับผู้ผิดนัดชำระลงจาก 7.5% ต่อปี เหลือ 0.5% ต่อปี และคิดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1% นอกจากนี้ยังลดค่าปรับลง 80% ให้กับผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และมีการกลับมาเจรจาขอชำระหนี้อีกครั้ง ขณะที่ผู้มีประวัติชำระหนี้ดี ยังลดดอกเบี้ยลงเหลือ 0.01% ด้วย