บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 21 ก.ค.64 ผันผวนในแดนบวกและลบ โดยตลาดเริ่มฟื้นตัวตามทิศทางเดียวกับตลาดเพื่อนบ้าน หลังจากปรับลดลงติดต่อกันในช่วงสัปดาห์ก่อน แต่ก็ยังถูกกดดันจากการเร่งตัวของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า และนักลงทุนบางส่วนยังรอผลการประกาศงบไตรมาส 2 ของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อประเมินทิศทางตลาด ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,540.88 จุด เพิ่มขึ้น 2.02 หรือ 0.13% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 73,683.46 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 502.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,154.36 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ภาพตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะผันผวนจากปัจจัยโควิด-19 ที่กลับมาระบาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งปกติตลาดหุ้นในเดือน ส.ค. มักจะเป็นหนึ่งในเดือนที่ผันผวนมาก โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ต่ำสุดเป็นอันดับ 2 เมื่อเทียบกับเดือน ดังนั้นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะรับมือความผันผวนคือ ลงทุนหุ้นปันผลสูง เพราะหุ้นกลุ่มดังกล่าวมักจะปรับตัวได้ในเวลาที่ตลาดหุ้นปรับฐานแรง เห็นได้จากในอดีตที่ดัชนีหุ้นปรับฐานแรง 11 ครั้ง แต่ปันผลสูงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าถึง 9 ใน 11 ครั้ง

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 105.00 บาท ลดลง -4.00 บาท

2.ปตท. ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

3.เอโอที ปิดที่ 58.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

4.จีพีเอสซี ปิดที่ 79.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

5.แอดวานซ์ ปิดที่ 177.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท