ศึกอเมริกันฟุตบอล NFL เกมซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 56 เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาไทย ที่สนามโซฟี สเตเดียม ในเมืองอิงเกิลวูด แคลิฟอร์เนีย เป็นการเจอกันระหว่าง ลอส แอนเจลิส แรมส์ เจ้าของแชมป์สาย NFC ที่ได้เล่นในสนามเหย้าของตัวเอง เคยเข้าชิงแล้ว 4 ครั้ง ชนะ 1 ครั้ง เจอกับ ซินซินเนติ เบงกอลส์ แชมป์สาย AFC ที่เคยแข่งซูเปอร์โบวล์ 2 ครั้ง แต่แพ้ทั้งสองครั้งต่อซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส

การแข่งขันเป็นไปอย่างตื่นเต้น โดยผ่านครึ่งแรก แรมส์ นำก่อน 13-10 แมทธิว สแตฟฟอร์ด จอมทัพของแรมส์ ขว้างบอลให้ โอเดล เบ็คแฮม จูเนียร์ และ คูเปอร์ คัปป์ รับลูกทำทัชดาวน์ ขณะที่เบงกอลส์ ได้จาก โจ มิกซอน ปาบอลสั้นให้ที ฮิกกินส์ ระยะ 6 หลาทำสกอร์ ก่อนที่ช่วงฮาล์ฟไทม์ โชว์ระดมศิลปินฮิปฮอปเบอร์เก๋ามากันเพียบเต็มเวทีไม่ว่าจะเป็น ดร.เดร, เคนดริก ลามาร์, แมรี ไบลจ์, สนูป ดอกก์, เอมิเนม และ 50 เซนต์ ที่อายุรวมกัน 286 ปี กลายเป็นซูเปอร์โบวล์ โชว์ ที่ศิลปินแก่กันมากที่สุด

กลับมาต่อในครึ่งหลัง โจ เบอร์โรว์ ควอเตอร์แบ๊กของเบงกอลส์ ขว้างยาว 75 หลาให้ ฮิกกินส์ รับลูกทำทัชดาวน์ และเบงกอลส์ แซงนำ 20-16 เมื่อจบควอเตอร์ 3 กระทั่งควอเตอร์สุดท้าย เบงกอลส์ ทำท่าจะคว้าถ้วยซูเปอร์โบวล์เป็นหนแรก ทั้งที่ 2 ปีก่อนเป็นทีมที่มีสถิติแย่ที่สุดในลีก อย่างไรก็ตาม เหลือเพียง 1.25 นาที สแตฟฟอร์ด สำแดงเดชพาทีมบุกจนขว้างให้ คัปป์ รับทัชดาวน์ที่ 2 ของตัวเองแซงนำ 23-20 ขณะที่ เบงกอลส์ พยายามพลิกสถานการณ์แต่เบอร์โรว์ขว้างบอลไม่สำเร็จในดาวน์ที่ 4 เสียการครองบอล

แรมส์ คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ห่างจากครั้งแรกที่ตอนนั้นอยู่ในเซนต์ หลุยส์ เมื่อปี 1999 และเป็นทีมที่ 2 ที่ได้ชูถ้วยวินซ์ ลอมบาร์ดี ในบ้านตัวเองต่อจากแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ด้าน คัปป์ คว้า MVP หรือผู้เล่นทรงคุณค่าเพิ่มเติมจากรางวัลผู้เล่นเกมบุกแห่งปีที่ได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

สแตฟฟอร์ด ปาบอลสำเร็จ 26 จาก 40 ครั้ง ระยะ 283 หลา 3 ทัชดาวน์ แต่ก็เสีย 2 อินเตอร์เซปต์ เบอร์โรว์ ปาบอลสำเร็จ 22 จาก 33 ครั้ง ระยะ 263 หลา 1 ทัชดาวน์