เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า มีผู้เก็บอำพันทะเล หรือ ขี้ของวาฬ ได้จากกลางทะเลปากอ่าวในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จึงเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเลขที่ 89/1 หมู่ 2 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ ซึ่งเป็นบ้านของนางสุวรรณา ดำอินทร์ อายุ 52 ปี เปิดเป็นกิจการรับซื้อมะพร้าวแห้ง โดยมีนายสำเริง ทองคุปต์ ผู้ใหญ่บ้านปลักช้าง หมู่ 1 ต.พร่อน อ.ตากใบ และนายสาโรจน์ ดำอินทร์ อดีตนายก อบต.พร่อน อ.ตากใบ ที่เป็นเครือญาติกับนางสุวรรณา นั่งอยู่ด้วย ก่อน น.ส.ชุลีพร ภู่ผล บุตรสาวของนางสุวรรณา ได้นำอำพันทะเล 4 ก้อน ที่ห่อด้วยผ้าเป็นอย่างดี มาวางบนโต๊ะหน้าบ้าน ซึ่งอำพันแต่ละก้อนมีน้ำหนักลดหลั่นกันไป ก้อนใหญ่สุด มีน้ำหนัก 16 ก.ก. ก้อนเล็กสุด มีน้ำหนัก 5 ก.ก. ลักษณะเป็นสีครีมผสมเหลืองและน้ำตาล ผิวเหมือนเคลือบหรือชโลมกับน้ำมัน เมื่อยกขึ้นมาดมกลิ่นค่อนข้างออกคาวๆ

โดยระหว่างที่พากันหยิบชมก้อนอำพันทะเล น.ส.ชุลีพร เล่าว่า อำพันทะเล จำนวนดังกล่าว ลูกจ้างคนหนึ่ง ได้ใช้เวลาว่างจากงานปลอกลูกมะพร้าวแห้ง นำเรือออกไปจับปลาในทะเลปากอ่าว โดยเมื่อประมาณเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ได้พบเห็นก้อนอำพันลอยทะเลอยู่มีลักษณะที่แปลก จึงได้เก็บมาให้แม่ตนดู เมื่อเห็นครั้งแรก จึงได้เปิดหาข้อมูลทางโลกออนไลน์ ซึ่งพบมีลักษณะเหมือนกับอำพันทะเล หรือ ขี้วาฬ จึงได้ทำการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญตามโลกโซเชียลแนะนำ ด้วยการใช้มีดตัดชิ้นส่วนของก้อนอำพันทะเล บางส่วนนำไปใส่ช้อนแล้วใช้ไฟลน พบว่าก้อนอำพันทะเล ละลายเป็นน้ำสีน้ำตาล และเมื่อนำมาสูดดมพบว่ามีกลิ่นหอม ออกคล้ายๆ กลิ่นเผาเทียนไข

น.ส.ชุลีพร เล่าต่อว่า ก้อนอำพันทะเลดังกล่าวมีคนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สนใจได้เดินทางมาดู และยืนยันว่าเป็นอำพันทะเล พร้อมกับแนะนำให้ทำการส่งชิ้นส่วนของอำพันทะเล ไปให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ตรวจสอบ เพื่อขอหนังสือรับรองว่าเป็นอำพันทะเล เมื่อได้หนังสือรับรองก็ยินดีที่จะซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ

น.ส.ชุลีพร ยังบอกอีกว่า หากมีผู้สนใจก้อนอำพันทะเล เพื่อนำไปใช้ในการผลิตน้ำหอม หรือ ตกแต่งกลิ่นเครื่องดื่มไวน์ ก็สามารถเดินทางมาชมหรือตรวจสอบก่อนได้ เมื่อเป็นที่มั่นใจและพอใจของแต่ละฝ่าย จะซื้อหาไปใช้ประโยชน์กับอำพันทะเล จำนวนดังกล่าวนี้ ก็สามารถติดต่อมาได้.