จากกรณีโลกออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความขัดแย้งระหว่าง “ติ๋ม ทีวีพูล” กับ “ทิดสมปอง” ที่ต่างฝ่ายต่างออกมาพูดโต้ตอบกันไปกันมา เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ติ๋ม ทีวีพูล ได้เปิดใจผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ถึงประเด็นความขัดแย้งกันบางอย่างเช่น การไปตีกรอบในการคบหาเพื่อน ขณะทำงานอยู่กับ “ติ๋ม ทีวีพูล” โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง ซึ่งทางฝ่าย "ติ๋ม ทีวีพูล"
กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ผู้หญิงอย่างเดียว ผู้ชายก็มี ตนเคยบอกว่าคนนี้มีข้อดีข้อเสียแบบนี้นะ เราอยู่วงการมานาน เราก็บอกเขาว่าคนนี้คบได้ แต่อย่าให้สื่อเห็น คนนี้คบไม่ดีเลย คนไหนที่เอากิเลสมาใส่ตัวเรา คนนั้นหวังร้ายกับตัวเราแน่นอน บวชเป็นพระมานาน อาจไม่รู้ว่าโลกภายนอกโหดร้ายแค่ไหน ตนเป็นทีวีพูล รู้จักดารามากมาย เราไม่ต้องหวังแสงจากเขา
เราแค่อยากเดินสายธรรมะ เราจบจากปัญหารุมเร้า กสทช.มาได้ เพราะว่าธรรมะ เพราะว่าคำสอนของพระพุทธเจ้า เราถือศีลมา 6 ปี สวดมนต์ได้เกือบทุกบท ไม่ต้องกังวลว่าเราจะหวังแสงจากเขา เพราะแสงของทีวีพูลเจิดจรัสมา 37 ปีแล้ว เราพูดซ้ำๆกับเขาทุกวัน จะชวนทำคอร์สธรรมะ ทำนั่นทำนี่ เดินสายธรรมะกัน วางแผนจนถึงไปทัวร์ธรรมะที่ต่างประเทศ ที่พี่คอยเตือนเขา เขาเชื่อไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่ครั้งนี้เขาเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ พี่รักษาคำพูดนะ พี่เคยบอกว่าจะให้ยังไงก็ให้อย่างนั้น
ด้าน เต้ กันต์พงษ์ ศกุณต์ไชย ลูกชายติ๋ม ทีวีพูล กล่าวว่า เรื่องการเตือนเขาเรื่องการคบคนอาจเป็น 1 จุดที่ทำให้เขาไม่สบายใจ แต่เราก็ไม่ถึงขั้นตีกรอบเขาเลย เป็นการแนะนำมากกว่า ปกติเราคุยกันเรื่องงานเป็นหลักแต่แง่การทำงาน การคบคน สภาพแวดล้อม มีผลกระทบต่อเขาแน่นอน ยิ่งเขามีงาน 3 รายการ ที่เขาต้องทำงานกับเรา ถ้าเขามีข่าวไม่ดี ภาพลักษณ์เสีย มันก็จะส่งผลกระทบต่อเรื่องเรตติ้งแน่นอน
ต่อข้อถามที่ว่า “ประโยคที่แทงใจพี่ติ๋มมากที่สุด ที่ออกมาจากทิดสมปองคืออะไร?”
ติ๋ม ทีวีพูล : สิ่งที่เขาพูด ไม่ได้พูดความจริง 100% พี่ไม่ได้เป็นคนไปชวนเขามาอยู่ด้วย พี่ไม่ได้หิวแสง เขาไม่เคยพูดยืนยันออกมาเต็มร้อย แถมพูดให้คนเข้าใจว่าพี่เป็นคนดึงเขามา พี่เสียใจมาก ทำให้พี่เสียหาย แบรนด์ทีวีพูลเสียหาย
เต้ กันต์พงษ์ : อย่างที่คุณแม่ยืนยันชัดเจนเลย เราไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าไปหาเขา เขาเป็นฝ่ายเข้ามาหาเรา
เขาอยากจะเข้ามากราบขอขมา พี่ติ๋ม จะให้โอกาสเขาไหม?
ติ๋ม ทีวีพูล : ในวันที่แถลงข่าว พี่บอกแล้วพี่อโหสิให้ แล้วพี่ว่างเปล่าสำหรับเขา เราไม่ต้องเจอกันไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน พี่เป็นคนรักษาคำพูด ไม่งั้นจะเป็นไม้หลักปักขี้เลน พี่บอกกับเขาตลอด พี่เป็นคนรักษาคำพูด ที่พี่ออกมาพูด พี่แค่ออกมาปกป้องลูกพี่และออกมาปกป้องทีวีพูล คิดว่าน่าจะเพียงพอแล้ว เขาจะเป็นยังไงก็เรื่องของเขา
ขณะที่ ดร.สมพงษ์ โมฆรัตน์ เพื่อนสนิททิดสมปอง ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ ถกไม่เถียงว่า ยังรู้สึกช็อกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนตัวยังไม่มีโอกาสได้คุยกันกับ สมปอง ความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิมแต่สิ่งนึงที่ผมรู้จักเพื่อนก็คือเขามีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ผมจำภาพเดิมของเพื่อนคนนี้ได้ เขามีความรับผิดชอบต่องานสูงมาก แต่อันนี้เหมือนความฝันเลย ผมคิดอยู่ว่าผมฝันไปไหม มันเหมือนว่าหัวหน้าทีมเราเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ เขาเคยบอกกับผมว่า เราไม่มีสิทธิยกเลิกงานที่เขาว่าจ้างหรือเขาเชิญเรา ยกเว้นเราจะป่วยจนเข้า รพ.
ที่ผมไม่ได้ติดต่อเขาไป เพราะด้วยความที่รู้นิสัยเพื่อน ถ้าเขาไม่ถามแสดงว่าเขายังไหว ผมก็จะปล่อยให้เขาตัดสินใจไป ผมไม่กล้าจะเสนอความคิดไป แต่ลึกๆแล้ว ผมก็เป็นห่วงเพื่อน ส่วนตอนนี้ ผมก็ยังทำงานกับทีวีพูลเหมือนเดิม เขาหยิบยื่นโอกาสมาให้ผมแล้ว ผมก็จะทำให้เต็มที่ หลังจากสึกมา ก็ยังเคอะเขิน ยังตกใจเวลาแม่ค้าผู้หญิงทอนเงิน ยังให้เขาวางเงินอยู่ ไม่กล้ารับเงินจากมือเขา บางทีเดินสวนกับผู้หญิงเราก็หลบจนเขาตกใจ