วันแรกของการซ้อม ฟรอนตาเล ค่อนข้าง “เห่อ” กับนักเตะคนใหม่ไม่น้อย มีไลฟ์ทางช่องทางสื่อสารต่างๆ ของสโมสรให้แฟนๆ ได้ติดตาม

สำหรับเจ้าเจ วันแรกๆ ดูยังเคอะเขินอย่างเห็นได้ชัด แม้จะเป็นรุ่นเก๋าในเจลีก แต่เมื่อมาบ้านใหม่ แถมเป็นบ้านหลังใหญ่เลยยังฮาไม่ออก

โทรุ โอนิกิ กุนซือใหญ่ เร่งรีบติวเข้มให้ ชนาธิป เก็ตแท็คติกให้เร็วที่สุด โดยส่งผู้ช่วยโค้ช โยสึเกะ ชิโนดะ ประกบติด

ชนาธิป ยอมรับว่า เขายังเขินๆ กับบรรยากาศใหม่ๆ กับเพื่อนใหม่ๆ แต่ก็ดีใจที่ได้มาซ้อมสักที ก่อนหน้านี้ช่วงกักตัว ก็พยายามออกกำลังกาย รักษาสภาพความแข็งแกร่งให้มากที่สุด

ก่อนหน้านี้ เจ้าเจ ก็ซ้อมต่อเนื่องกับทีมชาติไทยมาอยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องร่างกาย ไม่น่ามีปัญหา อยู่แค่ว่าการปรับจังหวะ

“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ให้ความเห็นไว้ว่า การย้ายไปที่แห่งใหม่ ที่ใหญ่กว่าเดิม เขาไม่ห่วงเจ้าเจเรื่องการปรับตัวเลย

ชนาธิปคุ้นเคยกับการซ้อม การเล่นที่ญี่ปุ่นมาเกือบ 5 ปี แล้ว ความยากลำบากคือตอนย้ายไปแดนซามูไรใหม่ๆ แต่ตอนนี้มันผ่านไปแล้ว

ฟรอนตาเล อาจซ้อมหนัก แต่คงไม่หนักไปกว่า คอนซาโดเล สักเท่าไหร่

สิ่งที่จะต่างกันไปคือสภาพแวดล้อม องค์ประกอบรอบด้าน คาวาซากิ ฟรอนตาเล ล้วนเต็มไปด้วยคนเก่ง เพราะทีมนี้สร้างมาเพื่อ “ล่าแชมป์”

กัปตันทีมชาติไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในการซ้อมของ ฟรอนตาเล ทุกคนมุ่งมั่นมาก มีความกระหาย การแข่งขันในทีมสูง

บรรยากาศแบบนี้ สำหรับคนสายชิล สบายๆ อาจไม่ชอบ

แต่ไม่ใช่กับ ชนาธิป

เจ้าเจ คาดอยู่แล้วว่าจะเจออะไร จากการอยู่กับทีมระดับกลางๆ ความดีไม่มี ความชั่วไม่ปรากฏ แพ้ก็แพ้ไป นัดหน้าเอาใหม่ มาสู่ทีมแย่งแชมป์ ทุกนัดต้องชนะ

ชนาธิป มองว่านี่คือสิ่งที่ดี ที่จะบีบเค้นให้เขามุ่งมั่นตั้งใจมากขึ้น กับการซ้อมอย่างเข้มข้น ซึ่งเขาเองก็พร้อมจะซ้อมอย่างเข้มข้น

ดูสีหน้าท่าทางของ ชนาธิป จะเปลี่ยนไปอยู่บ้าง ทั้งจากการที่เขาให้สัมภาษณ์กับช่องฟุตบอล 108 และดูการไลฟ์ที่ซ้อม, สัมภาษณ์ กับสโมสร

มีความก้ำกึ่งระหว่าง กดดัน-เครียด กับเอาจริง-ตั้งใจมาก

เรื่องนี้ผู้บริหารของ ฟรอนตาเล เองก็เคยเปรยๆ เหมือนกันว่า เขาไม่ห่วงเรื่องความมุ่งมั่นของ เจ้าเจ แต่ห่วงว่า ชนา จะตั้งใจจนเกินไป จนเกร็ง เล่นไม่เป็นตัวของตัวเอง

สไตล์ของ ชนาธิป ออกแนวศิลปินสักนิด ต้องใช้ความรีแลกซ์ เพื่อผลงานดีที่สุดในสนาม ทำให้ ฟรอนตาเล แอบๆ ห่วงเรื่องนี้

แต่ยังเชื่อว่า เจ้าเจ แค่ยังอยู่ช่วงจูนกับโลกใบใหม่มากกว่า เหมือนตอนเพิ่งย้ายไป คอนซาโดเล

ตอนนั้น เผลอๆ จะยากซะอีก นักฟุตบอลจากประเทศไทย เพื่อนร่วมทีมก็กังขา แต่ตอนนี้ เจ้าเจ ไปอยู่อย่างมีดีกรีติดตัวแล้ว เคยติดเบสต์ 11 จริงๆ เพื่อนร่วมทีม ต้องเกรงๆ เจ้าเจ ซะด้วยซ้ำ

ชนาธิป บอกด้วยว่า ฟรอนตาเล เล่นบอลเร็ว เน้นจ่ายบอล เคลื่อนที่ “คีย์” ก็คือบอลแรก จับให้ดี จ่ายให้ง่าย

บอลสไตล์แบบนี้ น่าจะทำให้เขามีทางเลือก ในการเล่นเกมรุกมากขึ้น เงยหน้าขึ้นไป แล้วมีเพื่อนรอ มีคนทำทาง หรือหลอกให้

ส่วนประเด็นที่ เจ้าเจ ดูท่าจะกังวลที่สุดคือ สภาพร่างกาย อาการบาดเจ็บ ที่หลังๆ มาแบบไม่ได้รับเชิญตลอด

ด้วยความที่แบกอะไรไปหลายอย่าง จึงอยากทำผลงานให้ดีที่สุด เต็มศักยภาพที่สุด แต่พอที่ผ่านมา เจ็บๆ บ่อยๆ มันก็แอบหลอนเหมือนกัน

เจ้าตัวพูดเองเลยว่า เป้าหมายแรกคือ “ต้องไม่เจ็บ”

คือถ้าเล่นไม่ดีมันแก้ไขได้ แต่ถ้าเจ็บแล้วมันทำอะไรไม่ได้เลย

สภาพร่างกาย น่าจะเป็นอุปสรรคเดียวที่ขัดขาทางรุ่งของ ชนาธิป ในการย้ายไปอยู่กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล

ส่วนเรื่องอื่น ล้วนเอื้ออำนวยที่ดึง เจ้าเจ ไปสู่อีกขั้น

จากทีมกลางๆ ค่อนล่าง ส่วนใหญ่เน้นตั้งรับ นานๆ บอลจะมาถึงสักที เค้ายังทำได้ดี ระดับต้นๆ ของเจลีก

มาสู่เพื่อนรอบข้าง สภาพทีมระดับท็อปเอเชีย แม้ความกดดัน การแข่งขันสูง แต่เชื่อว่าคนมุ่งมั่น อยากเอาชนะ อย่างเจ้าเจนั้น เรื่องดังกล่าว จะเป็นผลดีมากกว่า

จะยิ่งทำให้ ไต่ขึ้นไปสู่อีกระดับของอาชีพนักฟุตบอล

ช่วงปรับตัวอาจใช้เวลาเล็กน้อย แต่จะไม่เกินความสามารถ

โปรแกรมของ ฟรอนตาเล ลงเตะศึกชนแชมป์ “ซูเปอร์คัพ” พบ อูราวะ เรด ไดมอนด์ส แชมป์บอลถ้วยญี่ปุ่น “เอ็มเพอเรอร์คัพ” วันที่ 12 ก.พ. เวลาไทย 11.35 น. ส่วนศึกเจลีก จะลงเตะนัดแรกเปิดบ้านพบ เอฟซี โตเกียว วันที่ 18 ก.พ. เวลาไทย 17.00 น.

ถือเป็นประตูบานแรก สู่ความสำเร็จที่รออยู่ กับเป้าหมาย กวาดทุกแชมป์ที่ขวางหน้ารวมทั้งเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

คาวาซากิ ฟรอนตาเล อาจเป็นบ้านใหญ่ ที่การต่อสู้ แรงกดดันค่อนข้างสูง และสูงกว่า คอนซาโดเล หลายเท่า

สถานการณ์แบบนี้ บางคนอาจแผ่ว อาจหงอ หลุดโค้งไปเอง

แต่ไม่ใช่กับ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์

คนนิสัยอย่างเขา เชื่อว่าความกดดันนี้ จะยิ่งเป็นแรงขับ บีบให้เขาพัฒนา ปลดปล่อยพลังในตัว เติบโตไปอีกก้าว และอีกหลายๆ ก้าว

ไม่เชื่อก็รอดูกัน.

*** วุฒินล บุญวานิช ***
.
(ภาพจาก : Kawasaki Frontale)