วันที่ 19 ก.ค. ทางพล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติซึ่งถูกแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยาที่ขับรถชนด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ก.ย.55 แล้วอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าสำนวนคดีมีความบกพร่อง จึงได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ทางพล.ต.อ.วิสนุเผยว่ามีการแต่งตั้งให้ตนเป็นประธานกรรมการแทนพล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จเรตำรวจ (สบ 8) เนื่องจากต้องมีการสอบสวนนายตำรวจยศพล.ต.อ.เพิ่มเติม ประธานกรรมการสอบจึงต้องเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรมีตำแหน่งและยศไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา
ละเอียดยิบ!เปิดเอกสาร ผลตรวจสอบคดี”บอส อยู่วิทยา”
หลังจากนี้ตนจะต้องตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่ได้รับมาเพื่อทำงานต่อ ตอนนี้ไม่ทราบว่าผลสอบสวนจะเป็นอย่างไร แต่ส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจ และปกติไม่เคยทำอะไรช้า ทั้งนี้จะนัดประชุมคณะทำงานเรื่องนี้ในวันที่ 21 ก.ค.เวลา 10.00 น. หากมีความคืบหน้าจะเปิดเผยให้สื่อมวลชนทราบต่อไป
สำหรับคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวเริ่มจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุขผบ.ตร.ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการ หลังพบว่าพ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ กับพวกรวม 7 นายตรวจพบข้อบกพร่องเพิ่มเติมของข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญานายวรยุทธ อยู่วิทยา โดยมีการกล่าวหาว่ามีการร่วมมือกันอย่างเป็นระบบของเจ้าหนักงานในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทนายความ พยาน และบุคคลทั่วไปในการเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการดำเนินคดีจนถึงปัจจุบัน โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อิทธิพลบังคับ และการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งลงวันที่27 ต.ค.63 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาและเสนอความเห็น เพื่อดำเนินการตามรายงานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ
ทำความรู้จัก’บอส อยู่วิทยา’ ทายาทเศรษฐีอันดับ2เมืองไทย
ทั้งนี้หลังจากการสอบสวนปรากฎว่ามีข้าราชการตำรวจถูกระบุชื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญากับนายวรยุทธ อยู่วิทยา อีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากที่ถูกกล่าวหาไว้แล้ว จึงเป็นกรณีหน่วยงานอื่นแจ้งให้ทราบว่า มีข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัย หรือสงสัยว่ากระทำผิดวินัยเป็น พล.ต.อ. 1 ราย พล.ต.ท. 1 ราย และ พ.ต.อ. 2 ราย ในกรณีถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ.59 ได้ร่วมกันจัดให้ รองศาสตราจารย์สายประสิทธ์ เกิดนิยมพบกับพ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่นเพื่อนำเสนอวิธีการคำนวณความเร็วใหม่และสอบปากคำทางพ.ต.อ.ธนสิทธิ โดยแก้ไขวันสอบปากคำให้เป็นวันที่ 26 ก.พ.59 และวันที่ 2 มี.ค.59 โดยการกดดันหรือใช้อิทธิพลบังคับให้พ.ต.อ.ธนสิทธิเปลี่ยนความเห็นในเรื่องความเร็วรถยนต์ ดังนั้นประธานกรรมการต้องเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรมีตำแหน่งและยศไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา จึงมีเหตุอันสมควรหรือจำเป็นที่จะต้องเพิ่มจำนวนผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสืบสวนเพื่อทำหน้าที่ประธานกรรมการ