ปกติช่วงตรุษจีนของทุกปี เราจะพบว่าในโรงภาพยนตร์ทั้งในเครือเมเจอร์ และ SF ต่างก็จัดหาภาพยนตร์จีนจากค่ายดัง ที่มีดาราอย่าง “แจ็กกี ชาน” หรือ “เฉินหลง” ร่วมแสดงอยู่ด้วย นั่นก็เพราะว่าในช่วงต้นเรื่องและท้ายเรื่องทั้งตัวเฉินหลงและเหล่าดารารุ่นใหม่ ๆ จะออกมาอวยพรผู้ชม ให้มีความสุขไปตลอดทั้งปี แต่ เพราะว่าพิษจากโควิด-19 ทำให้ภาพยนตร์แอ๊คชั่นจากค่ายแผ่นดินใหญ่มีอันต้องเลื่อนการถ่ายทำออกไป สุดท้ายก็เลยไม่มีภาพยนตร์จีนจากแอ๊คชั่นสตาร์เข้ามาให้ชมในปี 2565
อย่างไรก็ดีทาง TRUE ID ได้เอาใจคอหนังแอ๊คชั่น ด้วยการจัดหาภาพยนตร์จีนฟอร์มยักษ์ แนวแอ๊คชั่นต่อสู้บู๊เดือด จนแทบหยุดหายใจมาให้ได้ชม นั่นก็คือเรื่อง RAGING FIRE หรือที่มีชื่อภาษาไทยว่า “โคตรเดือดฉะเดือด 2021” ก่อนหน้านี้ RAGING FIRE ได้สร้างสถิติกวาดรายได้ถล่มทลายไปกว่า 5 พันล้านบาท ขึ้นอันดับหนึ่งบ็อกซ์ออฟฟิศจีนยาวนานถึง 4 สัปดาห์ ฝีมือผู้กำกับแห่งตำนาน “เบนนี่ ชาน” จาก “ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ” รับประกันความมันส์จัดเต็มทุกอนู โดยพระเอกของเรื่องได้ดาราหนุ่ม “ดอนนี่ เยน” มารับบท “ชาน” สุดยอดตำรวจมือปราบระดับตำนาน ปะทะตัวร้ายสุดเหี้ยม! “โหง่ว” รับบทโดย “เซียะถิงฟง” เขาคืออดีตนายตำรวจมือดี แถมยังเป็นลูกศิษย์เอกของ “ชาน” แต่เพราะการเค้นสอบคนร้ายที่จับบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองไปเป็นตัวประกัน แล้วเกิดผิดพลาดทำให้คนร้ายเสียชีวิตซะเอง ขณะที่หัวหน้าฝ่ายงานกลับปัดความรับผิดชอบโยนบาปทั้งหมดให้ “โหง่ว” รับไปเต็ม ๆ เขาต้องถูกลงโทษทางวินัยถึงขั้นไล่ออก แล้วยังต้องรับโทษจำคุกตามกฎหมาย หลังจากพ้นโทษออกมา “โหง่ว” เต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขารวบรวมอดีตนักโทษมีฝีมือฉกาจ ตั้งแก๊งมาเฟียสุดเหี้ยมขึ้นมา เพื่อสังหารทุกคนที่ขวางทาง ไม้เว้นไม้แต่ตำรวจ “ชาน” จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร สามารถติดตามกันได้ทางช่อง TRUE ID เท่านั้น
ความโด่นเด่นของ RAGING FIRE ด้วยความยาวของหนังกว่า 2 ชม. ทำให้ต้องมีการปูพื้นเรื่องให้แน่น การใช้แฟลชแบ๊กเล่าย้อนไปในอดีตช่วงที่ “โหง่ว” ยังเป็นตำรวจน้ำดี ทั้งลูกศิษย์และอาจารย์ต่างก็ทำงานเพื่อองค์กรเดียวกัน ก่อนพลิกผันมายังสมัยปัจจุบัน ในส่วนของจุดขายงานแอ๊คชั่นสตั๊น ปรากฏว่าบทของตัวร้ายอย่าง “โหง่ว” ดูแล้วเดือดกว่า “ชาน” อยู่หลายขุม มีทั้งโชว์สตั๊นผาดโผน ใส่ลีลาทักษะควงมีดคู่เข้าจัดการกับเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งมาเฟียตัวพ่อ หรือ สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบเลือดเย็น “เซียะถิงฟง” เข้าถึงตัวตนของผู้ร้ายรายนี้ได้ดีสุด ๆ ทั้งสายตา อารมณ์และความโหดเหี้ยม
ขณะที่ “ดอนนี่ เยน” ในบทของ “ชาน” แม้จะดูดรอปลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดเนือยหรือเฉื่อยนัก หาก “โหง่ว” ดุดัน “ชาน”ก็พลิ้วไหว ณ จุดนี้อาจทำให้ใครหลายคนคิดไปถึง บทของอาจารย์ “ยิปมัน” ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดูแล้วเหมือนกับเป็นจุดอ่อนนิด ๆ หน่อย ๆ ของเรื่องก็คือ การเชื่อมโยงเหตุการณ์ในแต่ละซีน ที่ต้องการอาศัย บทสำเร็จรูปแบบตำรวจสืบสวน ซึ่งช่วงแรกเล่าเป็นฉาก ๆ ต่อเนื่องก่อนที่ช่วงกลางและหลังมีรอยต่อที่โดดไปมา ทำให้เกิดความเนือยในห้วงเวลานั้น ๆ นอกจากนี้ในซีนดราม่า ช่วงที่เพื่อนตำรวจต้องเสียชีวิตลงไป ปรากฏว่าทำออกมาเป็นระเบียบเป๊ะ ญาตินั่งตัวตรง ยืนตัวตรง เพลงประกอบดังกระหึ่ม กลายเป็น ภาพแช่แข็ง ไม่รู้สึกหดหู่แต่อย่างใด.
สรุป RAGING FIRE ถือเป็นหนังที่มาได้เวลาเหมาะเจาะในช่วงตรุษจีนเพื่อเอาใจคอหนังแอ๊คชั่นโดยเฉพาะ องค์ประกอบโดยรวมของหนังทำออกมาชนิดเอามันส์สะใจ ตัวร้ายร้ายได้ใจ ตัวเอกก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน ถ้าไม่คิดอะไรมากเรื่องดาม่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังแอ๊คชั่นอีกเรื่องที่สะท้อนแง่มุมความยุติธรรมในสังคมโลก เพราะบางครั้งคนดี ๆ คนหนึ่ง ต้องกลับกลายเป็นคนร้ายเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจนชีวิตต้องฝันแปรไปนั่นเอง.
