เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ตลาดนัดเจเจกรีน 2 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคก้าวไกล เบอร์ 6 จัดปราศรัยใหญ่ โดยมีแกนนำและสมาชิกพรรคก้าวไกล อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นายรังสิมันต์ โรม นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ร่วมเวทีปราศรัย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนและแฟนคลับของพรรคก้าวไกลมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมาก ท่ามกลางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มข้น ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมฟังปราศรัย และการจัดที่นั่งฟังปราศรัยแบบเว้นระยะห่าง
นายกรุณพล ปราศรัยว่า อุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลมั่นคงแน่วแน่ว่าเราจะไม่ยอมแพ้และประนีประนอมให้กับทุนผูกขาด อำนาจเผด็จการ และคนที่แย่งประชาธิปไตยไปจากพวกเรา ปัญหาจตุจักร-หลักสี่ คือเรื่องปากท้อง รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ของแพงขึ้นทุกวัน และมีผู้สูงอายุจำนวนมาก ตนอยากจะบอกว่า ส.ส.คนเดียว ไม่ว่าจะพรรคก้าวไกล หรือพรรคไหนๆ ก็แก้ไม่ได้ ต่อให้เป็น ส.ส.รัฐบาลก็ตาม เพราะไม่มีงบประมาณ วิธีแก้คือลดค่าใช้จ่าย เช่น เอาอินเทอร์เน็ตมาติดให้ฟรี เพิ่มสวัสดิการให้ผู้สูงอายุ ลดค่าเดินทางหรือค่าอาหารเมื่อโชว์บัตรคนจน เพราะการลดค่าใช้จ่ายก็เท่ากับเพิ่มเงินในกระเป๋าแล้ว เรื่องหมูราคาแพง ขั้นต้นต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ หยุดซื้ออาวุธแล้วนำเงินมาพยุงราคาหมู ส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยเลี้ยงในระบบปิด พร้อมทั้งปลดหนี้ ให้ดอกเบี้ยราคาถูก หาอาหารหมูที่ราคาถูกมาให้ เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยได้แล้ว
นายกรุณพล ปราศรัยต่อว่า ส่วนปัญหาน้ำท่วมเมื่อฝนตกและรถติดในจตุจักร-หลักสี่ หลายคนบอกให้ทำคลอง ทำระบบย่อยเพื่อให้น้ำระบายได้ ถามว่าต้องใช้งบกี่หมื่นล้านบาท ทุกวันนี้ยังกู้ไม่พอหรือ ตนมาอยู่ตรงนี้เพราะเบื่อ ส.ส.ที่พูดแต่นโยบาย แต่ไม่สามารถหาเงินมาทำได้ วิธีแก้ไขคือเริ่มต้นด้วยการลอกท่อโดยให้พี่ๆ นักโทษมาทำงาน และให้เบี้ยเลี้ยงเขาเพื่อจะได้เป็นเงินเก็บ ในวันที่ออกจากเรือนจำเพื่อจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตรงไหนเป็นพื้นที่ต่ำก็ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ส่วนที่บอกว่าจะลดค่ารถไฟฟ้าให้ถูก ทุกวันนี้รัฐยังไม่จ่ายค่าเดินรถสามหมื่นกว่าล้านบาทเลย แทนที่จะทำระบบรถเมล์ โดยยกเลิกรถเมล์ร้อน ใช้รถเมล์ไฟฟ้าวิ่งในระยะทางที่สั้น เพื่อให้เกิดการต่อรถและราคาถูก ปัญหาในท้องที่ถ้าคนตั้งใจและคิดจะทำจริงๆ มีวิธีมากมาย ไม่ใช่เรื่องไกลตัวและแก้ได้ยาก
“วันนี้พรรคก้าวไกลและผมตั้งใจที่จะมาแก้ไขประเทศนี้ อยากทำการเมืองใหม่ที่ไม่การเกี้ยเซียะ การเมืองที่ไม่มีการประนีประนอม แม้แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ หลายคนบอกว่าเราควรจะร่วมมือกันเพื่อชนะเผด็จการ ไม่ใช่มาตัดคะแนนกัน ตนถามว่าเริ่มด้วยการเกี้ยเซียะจับมือกันใต้โต๊ะ ชนะไปจะภูมิใจจริงๆ หรือที่คนหนึ่งต้องหลบให้ และถ้าแบบนั้นพรรคก้าวไกลจะตั้งขึ้นมาทำไม พรรคก้าวไกลต้องการผลักดันนโยบายและวิธีการปฏิบัติที่แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น เพราะพรรคของเราไม่ประนีประนอมและพุ่งชนทุกปัญหา เชื่อว่าหลายคนรู้สึกมีความหวังที่มีพรรคฝั่งประชาธิปไตยที่แท้จริงเกิดขึ้น วันที่ 30 ม.ค.นี้ จงนำความหวังเข้าไปในคูหา แล้วทิ้งความกลัวที่จะแพ้เผด็จการ ความกลัวที่คิดว่าจะเกี้ยเซียะกันแล้วจะแพ้ จงนำความหวังเข้าไปในคูหาเลือกตั้งแล้วกาเบอร์ 6 เพชร กรุณพล ให้เป็นผู้แทนฯ ของท่านในเขตจตุจักร-หลักสี่” นายกรุณพล กล่าว
ด้านนายพิธา กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่ใช่การเลือกตั้งธรรมดา และไม่ใช่การเลือกตั้งของพรรคการเมืองไหน แต่เป็นการเลือกตั้งของทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ เป็นการเลือกตั้งของคนที่ไม่ทนต่อรัฐบาลเฮงซวย ตนสัญญาจะพูดโดยใช้เวลาไม่นาน ไม่เหมือนประยุทธ์ สัญญาว่าการเมืองไทยที่เปลี่ยนไปตลอด 3 ปีที่ผ่านมาจะเปลี่ยนแปลงตลอดไป เราจะสู้อยู่เคียงข้างไม่ไปไหนอย่างแน่นอน สำหรับพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ตนขอให้ทุกคนเลือกด้วยความหวังไม่ใช่ความกลัวเพราะความกลัวมีเยอะไปหมดแล้ว ทั้งกลัวว่าจะตกงาน กลัวว่าจะไม่มีเงินส่งลูกเรียน และกลัวว่าจะติดโควิด
“การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกด้วยความหวังความหวัง อย่าเลือกตั้งด้วยความกลัวว่าจะชนะไหม กลัวว่าเลือกพี่แล้วน้องจะแพ้ กลัวรัฐประหาร กลัวว่าจะถูกยุบพรรค แต่ตราบใดที่นายพิธา ยังเป็นหัวหน้าพรรค ก.ก. ผมจะสู้กับความอยุติธรรมที่จะมาแน่นอน ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องคณิตศาสตร์ไม่มีทางลัด ไม่ใช่บอกว่าให้เลือกอีกคนแล้วจะทำให้อีกคนแพ้ แต่ต้องเลือกเลยความหวัง ต้องเลือกด้วยอนาคต ต้องเลือกว่าวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ ไม่ใช่เลือกเพราะกลัวแพ้ ไม่ใช่เลือกตั้งเพราะกลัวว่ารัฐประหาร หากมีรัฐประหารเกิดขึ้น ผมเลขาธิการพรรค ก.ก. และ ส.ส. ทุกคนจะไปยืนอยู่หน้าสภา หากมีปืนมายิงก็ให้รู้ไป หากบอกว่าจะมีการยุบพรรคก็ต้องอยู่ให้เป็น อีกเวทีหนึ่งเพิ่งจะบอกมาว่าต้องสู้ให้เป็น ไม่เช่นนั้นจะถูกยุบพรรค แต่ถูกยุบพรรคแล้วยังไง ยุบอนาคตใหม่แล้วเป็นยังไง ปัดโถ่!” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า สำหรับพี่น้องที่ประชาชนที่ไม่เคยเลือกตน และไม่คิดว่าจะเลือกนายกรุณพล ตนขอสัญญากับท่านว่าอย่างไรก็ตามตนก็ยังเป็นผู้แทนราษฎรของท่านอยู่เหมือนเดิม ตนจะซื้อใจท่านให้ได้ในวันในวันหนึ่ง พรรค ก.ก. ต้องชนะ ตนจะแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง จนกระทั่งเราสามารถที่จะเป็นผู้แทนราษฎรของท่านสักวันหนึ่ง วันพรุ่งนี้เราจะไม่หยุด เพราะเราจะเคาะทุกประตู เราจะเดินทุกถนน เราจะตอบคำถามทุกคำถาม และฟังทุกคำพูด จนกว่าเราจะซื้อใจพ่อแม่พี่น้องเขตจตุจักร-หลักสี่ ให้ได้ทุกคน เพื่อส่งนายกรุณพลเข้าสภา เราเปลี่ยนความกลัวให้เป็นความหวัง เปลี่ยนคืนที่มืดมนของประชาชนให้เป็นวันที่สดใสขึ้น และซับน้ำตาให้พี่น้องประชาชนไปด้วยกัน