ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจอย่างมากสำหรับเรื่องราวของนางร้ายมากฝีมือคนสวย หมวย สุภาภรณ์ ที่ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านสำนักข่าวหนึ่งถึงชีวิตที่ยากลำบากของตัวเอง มีหนี้นอกระบบและมีโรครุมเร้า ไหนจะไร้งานทำ ซึ่งพอมีการนำเสนอไปทำให้หลายคนพากันส่งกำลังใจไปให้สาวหมวยอย่างมากมายและทำให้เธอมีกำลังใจและดีใจที่แฟนๆ รักเธอขนาดนี้ ทำให้เธอมีกำลังใจและพร้อมทำงานเพื่อมอบความสุขให้กับประชาชนต่อไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
‘หมวย-สุภาภรณ์’ เปิดใจเดลินิวส์ รับคิดฆ่าตัวตาย ทุกวันนี้มีใช้แค่ ‘ม.40-คนละครึ่ง’
ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” มีโอกาสสัมภาษณ์เธอถึงเรื่องนี้ ซึ่งเธอก็เผยหมดเปลือกผ่านเฟซบุ๊กของเดลินิวส์ในช่วง “ทอล์คกับเธอ” โดยสาวหมวยเล่าว่าเรื่องราวในชีวิตของเธอเพิ่มเติมว่า
“เราได้รับการช่วยเหลือมากๆ ซึ่งเราก็อยากช่วยเหลือคนอื่นต่อไป ทำแบบฟอร์เอฟเวอร์ไปเลย เพราะว่าคนให้ย่อมมีความสุข (มือแนบอก) เพราะไทยช่วยไทยนะคะ คนไทยช่วยกันเอง สำหรับหมวยนะคะ แต่สำหรับคนอื่นหมวยไม่รู้ ถามว่าหมวยเข็ดในการทำธุรกิจไหม หมวยบอกเลยไม่เข็ด เพราะว่าชีวิตเราล้มก็ลุกได้ เราเป็นตุ๊กตาล้มลุกค่ะ (ยิ้ม) ถ้าไม่เคยล้มมาเลยสิคะแปลก ถ้าล้มแล้วลุกเร็ว คุณจะได้รับโอกาสเร็ว ถ้าล้มแล้วไม่ลุก คุณงอแงคุณไม่สู้ คุณก็จะไม่มีโอกาส ดังนั้นหมวยไม่เข็ดค่ะ ยังสู้อีกค่ะ”
“เรื่องที่หลายคนสงสัยว่าหมวยเป็นนักแสดงมานานน้อยใจไหมที่มีคนช่วยแค่ไม่กี่คนเองเวลาเราแย่ ถามก่อนทำไมต้องน้อยใจ ใครอยากช่วยก็ช่วยป่ะ ใครไม่อยากช่วยก็เป็นสิทธิของเขานะ คุณจะไม่ร้องแลกแหกกระเจิงว่ามาช่วยฉันสิๆไม่ได้นะ เราต้องอยู่กับความจริงบ้าง อย่าไปว่าเขาไม่ใช่ว่าคนไม่ช่วยเขาไม่ดี อย่าไปว่าเขา มีอะไรลงที่พี่คนเดียว ไม่น้อยใจด้วย คนที่ช่วยเหลือเรามาเขาบริสุทธิ์ใจ อย่างเจค ศตวรรณ บอกหมวยมีอะไรโทรฯ หานะ เพราะว่าเราบุกป่าฝ่าดงนอนกันมา กินกันมาตั้งแต่คุณ โอ วรุฒ ยังไม่เสียชีวิต ตอนนั้นเขาดังมากนะคุณเจต เราก็ไม่คิดว่าเพื่อนจะคิดถึงเรา เราซาบซึ้งในเพื่อน เราซาบซึ้งในความที่เราไม่เคยทำอะไรให้เขาเลยแต่เขาก็มาช่วยเรา อย่างคุณศิริพร อำไพพงษ์ หน้าก็ไม่เคยเจอ ไม่เคยทำอะไรให้เขาแต่เขาก็มาช่วยเรา ซาบซึ้งในมากๆ กราบขอบพระคุณ มีแค่นี้ก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”
หมวย เล่าต่อถึงแผนการดำเนินชีวิตต่อจากนี้ของเธอว่า “ตอนนี้เคลียร์ค่ายาไปเรียบร้อยตามเจตนาที่พี่ๆโอนเงินมาช่วย แล้วก็เคลียร์อะไรหลายอย่างไปเป็นบางเปราะแล้ว ก็ต้องบอกว่าเรามีหนี้สินเนอะ เราก็แอบเคลียร์ในหลายๆ อย่าง เหมือนวันที่พี่ๆ เพื่อนๆเข้ามาช่วยหมวยซื้อของก็ถือว่าช่วยหมวยแล้ว เนี่ย กาแฟนี้มีปีละครั้งก็เท่ากับช่วยหมวยแล้วเหมือนกัน เพียงแต่หมวยไปช่วยเขาต่ออีกทีนึง หมวยก็ไม่ได้คิดว่าตัวหมวยใหญ่โตอะไร หมวยก็ตัวจี๊ดเดียวแต่กินจุ”
“ส่วนสุขภาพของหมวยตอนนี้ที่ป่วยหลายโรค ตอนนี้ก็โอเคแล้ว แล้วก็จะมีโรคตามวัยเนอะ พอเราไปทำงานกรุงเทพฯ มันก็เหนื่อย เดี๋ยวเราต้องกลับไปอยู่ที่กรุงเทพ เราก็วางแผนกับทีมงานให้รอบคอบ เราจะไม่ล้มอีกแล้ว เราจะทำอะไรให้รอบคอบ แล้วตอนนี้เรามีบริษัทเป็นของเรา เพราะฉะนั้นเรามีหลายๆ คนคิด เรามี CEO ตัวน้อยๆ ก็บอกว่าเด็ดดวงมาก คิดอะไรได้เด็ดดวงมาก เพราะฉะนั้นพี่หมวยถึงบอกว่าตอนนี้เรามีครอบครัวใหม่ แล้วเราก็รักกันตั้งแต่วันที่เราไม่มีอะไร เราเริ่มต้นจากศูนย์ เพราะฉะนั้นเราจะเติบโตไปด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งกัน และเราก็จะทำความดีเพื่อความดีแบบนี้ต่อไปค่ะ”
“สิ่งที่ทำให้หมวยปลงและเข้าใจชีวิตมากขึ้นคือเราอยู่ในครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่ แต่พี่หมวยว่าเงินไม่ใช่ตัววัดคุณค่าของคุณภาพของชีวิตนะพี่หมวยว่า แต่ชีวิตคุณทำยังไงให้เรามีคุณค่าจะดีกว่า เงินไม่ได้วัด เพราะพี่หมวยมีครูบาอาจารย์สั่งสอน เพราะฉะนั้นพี่หมวยมีการปฏิบัติ มีการเข้าใจโลก เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มันเป็นอนิจจาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นชีวิตต่อไปนี้ก็จะไม่ประมาทอีกต่อไป สุดท้ายพี่หมวยไม่มีอะไรตอบแทนแฟนๆ นะคะ พี่หมวยมีแต่ได้โอกาสจากแฟนๆและตอบแทนด้วยความสุข ยังไงก็ขอบคุณแฟนๆ ทั่วประเทศนะคะ ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับแบบนี้ ยังไงก็ อย่างที่พี่หมวยพูดว่าช่วยกันนะคะ เรารอดแล้ว คนอื่นก็ต้องรอดด้วย แต่เราเป็นเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่ง ช่วยกันเถอะค่ะ เราคนไทยด้วยกัน แล้วที่หมวยนำเสนอแต่ละอันไม่ใช่ของไม่ดี ทุกอย่างผ่านกระบวนการคัดสรรคนเขาเป็น SME ระดับหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว เพราะฉะนั้นช่วยกันเถอะค่ะ ไปด้วยกันเพราะเราเป็นคนไทยเหมือนกัน”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก หมวย สุภาภรณ์