เมื่อวันที่ 18 ก.ค.น.ส.พิชญา อยู่ศรี อายุ 22 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ได้มีการเผาศพคุณย่า คือนางจันทรี อยู่ศรี อายุ 78 ปี ที่วัดท้ายเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังจากฉีดวัคซีน AstraZeneca เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่บางซื่อ กทม. ซึ่งหลังจากที่ย่าไปรับวัคซีนรอเช็คอาการ 30 นาทีย่าก็ไม่เป็นอะไร กลับไปส่งย่าที่ราชบุรี เลยถามอีกครั้งว่าย่าเป็นอะไรมั้ย ปวดเมื่อยตัวรึยัง ย่าก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่เป็นอะไร และป้าที่ดูแลย่าโทรมาหาพ่อตอนเช้าว่า ย่าอาเจียน ท้องเสีย และช่วง10โมงย่าก็เสีย
น.ส.พิชญา กล่าวว่า ตนเองก็ไปฉีดกับย่า เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ช่วงเวลา 14:42 น. และรอเช็คอาการ 30 นาที ออกจากสถานที่ฉีดวัคซีน 15:12 น. ซึ่งอดคิดไม่ได้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากวัคซีน เพราะย่ารับวัคซีนมายังไม่ครบ 24 ชม. และย่าแข็งแรงมาตลอด โรคประจำตัวของย่าคือ ธาลัสซีเมีย และกระดูกทรุด ตามวัยของคนแก่ ซึ่งตนเองยืนยันว่าคุณย่าเสียชีวิตจากวัคซีนแน่นอน พร้อมจะทำเรื่องร้องเรียนให้ถึงที่สุดเพื่อความยุติธรรม โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะส่งผลไปยัง กรุงเทพเพื่อรอผลยืนยันอีกครั้งว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร
ด้านนางจินตนา วงษ์สร้อยสน อายุ 56 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากที่แม่กลับมา จนวันรุ่งขึ้นเวลา 07.30 น.ถามแม่ว่ามีอาการเป็นไงบ้าง แม่บ่นว่าปวดเหมื่อยตามร่างกายแขนไม่มีแรง เวียนหัว และอาเจียนเป็นน้ำอยู่ข้างเตียง ตนเองคิดว่าเป็นอาการปกติของคนฉีดวัคซีน จึงให้แม่นั้นนอนพักก่อนออกไปข้างนอกเพื่อจะซื้อของให้แม่ทาน ประมาณครึ่งชม.ก็กลับมาเห็นแม่ก็ลุกมาเปิดพัดลมได้แต่ไม่ค่อยไหว ก่อนจะมากินกล้วย และน้ำเกือบหมดแก้ว โดยถามแม่ว่าไหวมั้ยบอกว่าเวียนหัวจึงให้แม่นั้นนอนพักผ่อนไปอีกครั้ง จนนอนไปนานมาเกือบ 10.30 น. จึงไปเรียกคิดว่าผิดปกติแต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นจึงพลิกตัวแม่ ปรากฏว่าแม่ปากซีดลิ้นจุกปาก ตนเองตกใจโทรเรียก 1669 มา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพบอกว่าแม่เสียแล้วประมาณ 1 ชม. ส่งศพชันสูตร ที่โรงพยาบาลระบุว่า ปอดติดเชื้อ ตนไม่เชื่อว่าจะเสียชีวิตเพราะสาเหตุนี้ จึงต้องการคำอธิบายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนแน่นอน