สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงฮานอยประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ว่า รัฐบาลเวียดนามเคยบริหารจัดการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ได้ในช่วงแรกๆ จนทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนน้อย เพราะการตรวจคัดกรองเชิงรุก ระบบติดตามตัว ปิดพรมแดน และการกักกันโรค แต่ก็ยังมีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข


รัฐบาลเวียดนามแถลงว่า การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นสร้างความยุ่งยากมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจึงประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ห้ามการเคลื่อนย้ายและเดินทางในพื้นที่ 16 จังหวัดทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 ก.ค.เป็นต้นไป เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ
เวียดนามพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 3,718 ราย สูงสุดเป็นวันที่สามติดต่อกันแล้วที่พบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่รายวันเกิน3,000 ราย และ 3 ใน 4 ของผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่อยู่ในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศ โดยเฉพาะในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงส่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 10,000 คนลงพื้นที่พบการแพร่ระบาด
เวียดนามซึ่งมีประชากร 98 ล้านคน มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 47,904 รายและเสียชีวิต 225 ศพ การพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น สร้างความกดดันให้รัฐบาลเร่งสรรหาวัคซีนและดำเนินการฉีดวัคซีน แต่ยังฉีดได้ครบ 2 เข็มไม่ถึง 300,000 คนเท่านั้น และเวียดนามได้รับวัคซีนแล้วเกือบ 9 ล้านโด๊ส สถานทูตสหรัฐประจำเวียดนามแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐจะสรรหาวัคซีนโมเดอร์นาให้อีก 3 ล้านโด๊สผ่านโครงการโคแวกซ์
เครดิตภาพREUTERS