นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก มีความผันผวนในระดับสูง แม้ว่า จะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโอมิครอนก็ตาม ซึ่งกระทรวงพลังงาน กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลราคาพลังงานไม่ให้สูงจนกระทบประชาชนมากเกินไป ล่าสุดการดูแลราคาน้ำมันดีเซล ยังคงนโยบายตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่ให้ดูแลเพดานไม่เกินลิตรละ 30 บาทต่อลิตร ซึ่งราคาล่าสุด ( 8 ม.ค.) อยู่ที่ลิตรละ 29.44 บาท
ส่วนการพิจารณามาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ซึ่งจะหมดมาตรการตรึงราคาถัง 15 กก. 318 บาทสิ้นเดือน ม.ค.นั้น ขณะนี้ต้องรอการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พลังงาน เป็นประธาน ที่จะประชุมในวันที่ 11 ม.ค. นี้ว่า จะมีนโยบายอย่างไร โดยราคาแอลพีจีในตลาดโลกที่ผ่านมา อยู่ในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง ต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแล ติดลบสูงกว่า 23,178 ล้านบาท เบื้องต้นหากต้องมีการปรับขึ้นราคา ก็จะทยอยปรับเป็นขั้นบันได เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนมากเกินไป
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้เข้าไปอุดหนุนราคาแอลพีจี ตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 จนถึงปัจจุบันสถานะเงินกองทุนในส่วนของบัญชีแอลพีจีติดลบ 23,178 ล้านบาท แต่หากรวมกับเงินจากบัญชีน้ำมันที่มี 17,233 ล้านบาท สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิจะติดลบ 5,945 ล้านบาท และหากรัฐไม่มีมาตรการใดๆ เข้ามาอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มที่แท้จริงจะปรับตัวขึ้นไปสูงถึง 440 บาทต่อถัง 15 กก. แล้ว