มาซินา ทูเพีย และครอบครัวของเธอ เดินทางจากบ้านเกินในฮาวายไปยังเมืองนิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ม.ค. เพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน ในขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่ใจกลางเมืองเพื่อรับประทานมื้อเย็น ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาชกที่ใบหน้าของแม่ของมาซินา จนเธอทรุดลงกับพื้นในทันที
พ่อของมาซินาตะโกนให้ลูกสาวไล่ตามคนร้ายไปและเธอก็ทำตามโดยไม่ลังเล สิ่งที่โจรร้ายไม่รู้ก็คือ แม้มาซินาจะเป็นสาวน้อยวัย 18 ปี แต่เธอก็เป็นนักกีฬาทีมชาติประเภทยกน้ำหนัก ที่เคยทำสถิติการยกน้ำหนักสูงสุดในท่าเดดลิฟต์ไว้ที่ 320 ปอนด์ หรือราว 145 กก.
มาซินาไล่ตามชายคนดังกล่าวจนทันและต่อสู้กัน คนร้ายชกหน้าเธอ แต่มาซินาไม่ยอมปล่อยมือ
“ฉันลุกขึ้น ฉันกำลังจะล้มอีก มองทางซ้ายไม่เห็นและฉันพุ่งเข้าหาเขา แล้วเขาก็พยายามจะผลักฉันให้เข้าไปในรถ แต่ฉันโยนเขาเข้าไปใต้รถและกดร่างเขาไว้กับพื้น” มาซินาเล่าว่า เธออาศัยรถช่วยให้เธอตรึงร่างคนร้ายไว้ได้ “เขาขอร้องให้ฉันปล่อยเขาไป แต่ฉันก็ย้ำกับเขาซ้ำ ๆ ว่าเขามาหาเรื่องผิดบ้านแล้วล่ะ”
มาซินาไม่ยอมปล่อยคนร้ายจนกระทั่งเธอเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง จากนั้นเธอจึงกลับไปหาครอบครัวและร้องไห้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมชายคนดังกล่าวและระบุว่าเขาชื่อออกัสตัส เทย์เลอร์ อายุ 36 ปี เป็นนักวิ่งราวชิงทรัพย์ ตำรวจตั้งข้อหาเทย์เลอร์ไปสองกระทงได้แก่ ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย โดยมีวงเงินประกันตัว 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.35 ล้านบาท)
แม่ของมาซินาได้รับบาดเจ็บเพียงแค่กระดูกขากรรไกรเคลื่อน ส่วนมาซินาตาเขียวไปหนึ่งข้าง
นักกีฬาทีมชาติหญิงได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรสตรี แต่มาซินากล่าวว่านี่คือสิ่งที่เธอเรียนรู้จากการเติบโตมาในฮาวายว่าเมื่อใดที่ล้มลงไป ต้องลุกขึ้นมาให้ได้เสมอ
มาซินายังไม่สนับสนุนให้คนทั่วไปต่อสู่กับอาชญากรอย่างที่เธอทำ แต่เธอกล่าวว่าเราควรตื่นตัวและระมัดระวังต่อสถานการณ์รอบข้างไว้ตลอด และกล่าวว่าเธอโชคดีมากที่คนร้ายไม่มีอาวุธ
แหล่งข่าว
https://www.sunherald.com/news/nation-world/national/article257100582.html
เครดิตภาพ : facebook.com/masina.tupea