ศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ ซึ่งกำลังจะเปิดฉากฟาดแข้งกันที่ประเทศแคเมอรูน ในวันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค.นี้ อาจเจอปัญหาใหญ่ หลังกลุ่มกบฏในบางพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในเมืองลิมเบ และ การูอา ซึ่งเป็น 2 จาก 5 เมืองที่รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนั้น อาจเตรียมใช้ความรุนแรงเพื่อก่อกวนการแข่งขัน ส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษ ออกประกาศแนะนำให้ประชากรของประเทศ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังแคเมอรูนแล้ว

รายงานข่าวจาก “รอยเตอร์ส” สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดัง ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในประเทศแคเมอรูน ระหว่างรัฐบาลซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่พูดภาษาฝรั่งเศส กับกลุ่มกบฏซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก โดยในรอบปีที่ผ่านมา มีความพยายามวางระเบิดถึง 8 ครั้งในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ และมีความเป็นไปได้ที่สถานที่สำคัญในหลายเมือง รวมถึงในกรุงยาอุนเด เมืองหลวงของประเทศ อาจกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของกลุ่มกบฏ ขณะที่ “เดลี เมล์” สื่อดังในประเทศอังกฤษ รายงานก่อนหน้านี้ว่า แม้แต่คนที่แต่งชุดมัสคอตประจำการแข่งขัน ยังต้องสวมชุดเกราะกันกระสุน ระหว่างทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์การแข่งขันในพื้นที่เสี่ยงอีกด้วย

ด้วยเหตุดังกล่าว ส่งผลให้กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ต้องออกประกาศแนะนำประชากรของประเทศ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังแคเมอรูน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งรวมถึงเมืองการูอา และลิมเบ ซึ่งเป็น 2 จาก 5 เมืองเจ้าภาพศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ โดนเมืองการูอา จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในกลุ่ม D ซึ่งประกอบด้วย อียิปต์, ซูดาน, ไนจีเรีย และ กินี บิสเซา ซึ่งมีนักเตะดาวดังจากศึกพรีเมียร์ลีกหลายคนที่ต้องลงเล่นที่เมืองนี้ อาทิ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์จากสโมสรลิเวอร์พูล รวมถึงทีม “อินทรีมรกต” ที่มี อเล็กซ์ อิโวบี จากเอฟเวอร์ตัน รวมถึง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี และ เคเลชี อิเฮียนาโช จากเลสเตอร์ ซิตี นอกจากนี้ยังจะจัดเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีก 1 นัด

ส่วนเมืองลิมเบ ซึ่งก่อนหน้านี้มารายงานว่าทหารต้องนำรถติดอาวุธออกมาลาดตระเวนเพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ รวมถึงต้องมีการตั้งด่านความมั่นคงบนถนนสายหลักหลายเส้นนั้น ก็จะเป็นเจ้าภาพจัดเกมในกลุ่ม F ซึ่งประกอบด้วย ตูนิเซีย, มาลี, มอริทาเนีย และ แกมเบีย รวมถึงเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายอีก 2 นัด