“บีจี”ฝ่าโควิดผงาดแชมป์ไทยลีก
ผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด ปั่นป่วนข้ามปี ไทยลีก ต้องปรับโปรแกรม เลื่อนแล้ว เลื่อนอีก
แต่หลังจากเคลียร์มาตรการเรียบร้อย ฤดูกาล 2020-21 ที่เตะกันยาวเหยียด กว่า 13 เดือน และก็ต้องเบรกไปช่วงเดือนม.ค. ก็มาบรรเลงต่อแบบรัวๆ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ. แข่งแบบใส่สปีด จนจบการแข่งขัน
“เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ของ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน เข้าป้ายคว้าแชมป์ไปครอง
น่าเสียดาย ที่นัดสุดท้ายมาพลาดท่าแพ้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ชวดเป็นแชมป์ไร้พ่าย แต่ก็ยังทำสถิติเป็นทีมแรก ที่คว้าแชมป์ไทยลีก 2 และมาต่อด้วย ไทยลีก 1 ในฤดูกาลต่อเนื่องกัน
ด้วยฝีมือของ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน
ที่หลังพาทีมประสบความสำเร็จ ก็ต้องอำลาจากไป…ซะงั้น
ผลงานดีแต่เปลี่ยนโค้ช
อย่างที่เกริ่นไป “โค้ชโอ่ง” ทำผลงานแจ่มแจ๋ว แต่กลับสุดทางกับ บีจี
เราคงไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆ โค้ชที่พาทีมคว้า 2 แชมป์ลีก 2 ปี ติด แต่ไม่ได้ไปต่อ โดย บีจี ไปคว้า ออเรลิโอ วิดมาร์ อดีตกุนซือเก่ามาคุมทีมแทน ด้วยเหตุผลที่(คาดว่า) เพราะ โค้ชโอ่ง ไม่มีโปรไลเซนส์
ฝีไม้ลายมือของ ดุสิต เฉลิมแสน ว่างงานไม่นาน “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ก็ดึงไปคุม การท่าเรือ เอฟซี ทว่าผลงานไม่ค่อยแจ่ม โค้ชโอ่ง เลยประกาศขอลาออกเอง
ที่ตะลึงคือ พอ โค้ชโอ่ง ลาออก บีจี ก็ปลดวิดมาร์ ที่กำลังทำเข้าที่เข้าทาง ไต่ไปทาบจ่าฝูง แล้วไปดึง โค้ชโอ่ง กลับมาอีกครั้ง โดย ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสร มาเฉลยว่า เหตุที่ปลดวิดมาร์ เพราะไม่ถูกใจ และดื้อ
สตาร์ต 3 เกมแรก ของโอ่งภาค 2 ฝืดสนิท แพ้ หนองบัว พิชญ, บุกแพ้ การท่าเรือ ทีมเก่า ของ “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ และมาเสมอ พีที ประจวบ หล่นปุ้ มาที่ 5 ตามจ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 แต้ม ก็พอดี ระฆังยกแรกดังเป๊ง พักเลกก่อน
ไม่ใช่เพียง บีจี-โค้ชโอ่ง ที่ตั้ง ที่ปลด แบบงงๆ
“น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม พา หนองบัว พิชญ คว้าแชมป์ไทยลีก 2 ขึ้นสู่ไทยลีก 1 ครั้งแรก ชนิดเกือบไร้พ่ายเช่นกัน แต่ถูก “พญาไก่ชน” เด้งเฉย ชนิดแฟนบอลงงแล้ว โค้ชฉ่วยงงกว่า บอกเหมือนโดนหมัดน็อก
ตอนนี้ น้าฉ่วย ไปทำ ตราด เอฟซี ในลีกรองเหมือนเดิม และทำท่าจะไปฉิวขึ้นชั้นอีก
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มี อเล็กซานเดร กามา นำทัพจบเลกแรกด้วยการนำจ่าฝูง แต่ เนวิน ชิดชอบ บอสของบอส เปลี่ยนแนวไปใช้สายพันธุ์ซามูไร ดึง มาซาทาดะ อิชิอิ ที่หมดสัญญากับ สมุทรปราการซิตี้ มาแทน
ก็เป็นการตัดสินใจที่งงๆ เหมือนรถไม่เสีย แต่เอาเข้าอู่ซ่อม จะแรงกว่าเดิม หรือเครื่องรวนน้อตหลุด ต้องรอดูกัน
ฟุตซอลโลกหนท้ายของแข้งยุคทอง
ฟุตซอลทีมชาติไทย ที่เข้ารอบสุดท้ายฟุตซอลโลกสมัยที่ 6 ซึ่งจัดที่ประเทศลิทัวเนีย โดยทีมชาติไทยหมายมั่นปั้นมือ จะผ่านสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้ หลังจากเคยเข้าลึกสุดที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ใน 2 ครั้งก่อนหน้านี้
ก่อนเตะ มีเรื่องช็อก เมื่อ “ปูลปิส” โฆเซ มาเรีย ปาซอส เมนเดส กุนซือคู่บุญ แยกทางกับทีมชาติไทย แล้วเป็น “โค้ชหมี” รักษ์พล สายเนตรงาม มาแทน
ผลงานรอบแรก ตามยุทธศาสตร์ แพ้ โปรตุเกส 1-4, เสมอ โมร็อกโก 1-1 โดยได้ประตูแบ่งแต้มอึดใจสุดท้ายจาก จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ต่อด้วยเก็บงาน ขยี้ หมู่เกาะโซโลมอน 9-4
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ไปเจอของแข็ง คาซักสถาน แม้เป็นชาติใหม่ แต่คืออันดับ 6 ของโลก ซึ่งเราก็ต้านไม่ไหว โดนสอยไป 0-7 จบที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย 3 ครั้งติด
และแม้ยังไม่มีการประกาศเป็นทางการ แต่ก็น่าสนใจว่า ด้วยอายุหลัก 3 ของ “โกลเด้นเจเนอเรชั่น” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, กฤษดา วงษ์แก้ว, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ฯลฯ นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขา กับทัวร์นาเมนท์ฟุตซอลชิงแชมป์โลกก็ได้
จุดเปลี่ยน”ช้างศึก”
งานใหญ่ของทีมชาติไทย ในปีที่ผ่านมา ศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่หนีโควิด มาเตะต่อ ที่ประเทศยูเออี เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
สถานการณ์ที่ค้างเติ่ง จากปี 2019 ไทย ก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พอจะเก็บตัวดีๆ โควิดลงแคมป์ จะตัดใครก็ไม่กล้า เลยต้องปุเลงๆ ไป ยูเออี รวม 39 คน ในแบบไร้ตัวหลัก ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา
3 นัดท้าย เสมอ อินโดนีเซีย 2-2, แพ้ ยูเออี 1-3 และแพ้ มาเลเซีย 0-1 จบด้วยรองบ๊วย ตกรอบสนิทใจ ชวดเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชีย เซ็งไปตามๆ กัน ถ้าจะมีสิ่งดีสักอย่าง ก็คงเป็นการแจ้งเกิดของ “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร แข้งเลสเตอร์
อากิระ นิชิโนะ ที่แข่งเสร็จ เผ่นกลับญี่ปุ่นทันที เป็นกระแสดราม่าว่าไม่ยอมมาพูด มาคุย มาเจรจา สุดท้ายต่อมาก็ถูกปลดจากตำแหน่ง แยกทางแบบไมค่อยสวย ล่ามแปลภาษา เป็นหนึ่งในประเด็นที่ สมาคมฯ หยิบยกมาพูดถึง ทำนองว่าไปเลือกคนรู้จัก แต่ไม่รู้เรื่องฟุตบอล ก็เลยเละ
ความล้มเหลวของช้างศึก และอำลาของ นิชิโนะ นำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงของทีมชาติไทย
“มาดามแป้ง”คัมแบ๊ก
ช่วงชุลมุน ชุลเก ทีมชาติไทยจะไปทางไหน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็ทำฮือฮา ประกาศตั้ง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ และชุด 23 ปี หวนกลับไปใช้ระบบมี “มิดฟิลด์ตัวจ่าย” ในนาม “ผู้จัดการทีม” อีกครั้ง หลังจากดึงมาให้สมาคมฯ จัดการทั้งหมด
เหตุผลไม่มีอะไรมาก ในช่วงเศรษฐกิตกสะเก็ด ต้องหาตัวช่วยมาแบ่งเบาภาระรายจ่าย และอีกอย่างหนึ่ง มาดามแป้ง มีคอนเน็คชั่นกับสโมสรที่ดี พูดคุย ขอตัวได้ จึงได้กลับมาอีกครั้ง หลังจากลาออกไปตั้งแต่ปี 2019 เมื่อจบศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก มาดามแป้ง บอกอินกับหน้าที่นี้
มาดามแป้ง เข้ามา ก็เดินหน้าหาโค้ชคนใหม่ งานแรกชุด 23 ปี เอเชีย ที่มีคิวชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ตั้ง “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ เป็นเฮดโค้ช ประสานด้วย “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วย ส่วนชุดใหญ่ ตั้ง มาโน โพลกิง ลองงานในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ก่อน มี 2 โค้ชคู่ใจมาดามแป้ง จเด็จ มีลาภ กับ หนึ่งฤทัย สระทองเวียน เป็นผู้ช่วย
การเข้ามาของ มาดามแป้ง ถูกมองไกลถึงขั้นว่า ปูทางไปสู่เก้าอี้นายกสมาคมลูกหนังเลยหรือไม่
ถาม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกคนปัจจุบัน บอกว่า “เชียร์เต็มที่ เหมาะสมที่สุด”
ถาม “มาดามแป้ง” ตอบว่า “ขอดูก่อน”…ฮั่นแน่
ก็คงถูกอย่างที่มาดามแป้งบอก นายกสมาคมฯ เลือกตั้งอีกที ตั้งปี 2563 เส้นทางจากนี้ จะขึ้น-ลง หรือฟ้าลิขิตไปทางไหน ยังเดายาก
อะไรก็ไม่แน่นอน
การกลับมานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมชาตินี่แหละ คือตัวอย่างที่ดีว่า อะไรมันก็ไม่แน่จริงๆ
ฟุตบอลมันลิขิตไว้แล้ว
โค้ชโย่ง นำช้างศึกพลังหนุ่ม ชุดที่ขาดตัวเก่งเพียบ ไปแข่งรอบคัดเลือกที่มองโกเลีย นัดแรกเสมอ มองโกเลีย 1-1 ต่อด้วยชนะ ลาว 3-0 และนัดสุดท้ายเสมอ มาเลเซีย 0-0 จบแบบนี้ เราไม่ได้แชมป์กลุ่มแน่นอน ต้องไปลุ้นคู่สุดท้าย ให้ ลาว ชนะ มองโกเลีย
แล้วก็สำเร็จจริงๆ ลาว ชนะ 3-2 ส่งไทยเข้ารอบแบบงงๆ ในฐานะอันดับ 2 ที่ดีที่สุด
ทีมคิดว่าร่วงกันไปแล้ว กลับโรงแรมหงอยๆ เก็บชของแบบห่อเหี่ยว แต่พอผลของ ลาว-มองโกเลีย เข้ามา โรงแรมแทบแตก โค้ชโย่ง เฮสุดขีด พูดกับนักเตะจนเป็นประโยคฮิตว่า “ฟุตบอลมันลิขิตไว้แล้ว ถ้ามันเข้า ยังไงมันก็เข้า”
แฟนบอลได้ยินแล้วหมั่นไส้ แค่นี้ก็ดีใจแล้วเหรอ ยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ ทั้งที่เราก็ทำผลงานของเราเอง เข้ารอบตามกติกา ไม่ได้มีใครมาช่วยซะหน่อย
แข้งเจลีก กับบิ๊กดีลของ”ธีราทร”
ธีราทร บุญมาทัน ตัดสินใจย้ายกลับไทย ไปอยู่กับทีมเก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตอนย้ายมาเมืองทอง มึนตึงอยู่สักพัก ก่อนไปเคลียร์กันช่วงบอลคิงส์คัพ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บอกว่า ซื้อเจ้าอุ้มมาหนนี้ ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ราคาไม่ถึง 7 ล้านบาท
“โก๋อุ้ม” นับเป็นนักเตะไทยที่ประสบความสำเร็จในต่างแดนอย่างที่สุด เป็นกำลังหลักของ โยโกฮามา เอฟ มารินอส เป็นแชมป์เจลีก 1 สมัย, รองแชมป์เจลีก 1 สมัย ก่อนย้ายมาไทย เขาบอกปัด กาลาตาซาราย ยอดทีมตุรกี เหตุผลง่ายๆ ยุโรป ไม่ใช่ความฝัน ความฝันคือญี่ปุ่น และก็สำเร็จแล้ว ในวัย 31 ปี จึงเลือกกลับมาไทย
เก็บประสบการณ์มากมาย ตั้งแต่สมัยอยู่วิสเซล โกเบ ร่วมงานโคตรบอล อันเดรส อิเนียสตา, ลูคัส โพดอลสกี จนมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดซามูไร
จากยุคเฟื่องแข้งไทยในเจลีก ชนาธิป สรงกระสินธ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร ตอนนี้ก็เหลือ ชนาธิป คนที่ไปคนแรก และคนเดียว ซึ่งก็น่าสนใจถึงอนาคตของเจ้าเจ ในวัยใกล้เลข 3 ว่าจะขยับขยายไปทางไหน
ส่วนอีกราย “พี” ศศลักษณ์ ไหประโคน ย้ายไปแบบยืมตัวเล่นกับ ชุนบุก ฮุนได ก็ได้แชมป์เคลีก เกาหลีใต้ เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้ลง และก็คงกลับมาซบ บุรีรัมย์ เหมือนเดิม
ปีหน้างานชุก ศึกหนักทีมชาติ
ปีหน้าเพียบเลย กับภารกิจของทีมชาติไทย
เริ่มจากฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย ที่อินเดีย 20 ม.ค.-6 ก.พ. “ชบาแก้ว” อยู่กลุ่มเดียวกับ ออสเตรเลีย, ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย รายการนี้คัดอย่างน้อย 5 ทีมไปฟุตบอลหญิงโลก ที่ออสเตรเลีย กับ นิวซีแลนด์ ถือว่าโอกาสเปิดกว้างมากๆ
บอลชาย เริ่มจากชุด 23 ปี มีศึกซีเกมส์ ที่เวียดนาม ที่เลื่อนมาเตะเดือน พ.ค. ส่วนเดือนต่อมา มีชุดใหญ่แข่งคัดเลือก เอเชียนคัพ วันที่ 8-14 มิ.ย. ทีมชาติไทย ต้องลงมาคัดเลือกด้วย โดยเล่นสนามกลาง หาอีก 11 ทีมไปรอบสุดท้ายที่จีน งานนี้ก็พลาดไม่ได้ ตกรอบไปเสียฟอร์ม เสียหน้า
ปัญหาน่าปวดหัวคือช่วงเวลาเดียวกันกับที่ชุดใหญ่เตะคัดเอเชียนคัพ ก็ดันมีศึก 23 ปีเอเชีย รอบสุดท้าย ที่อุซเบกิสถาน ระหว่าง 1-19 มิ.ย. เป็นโจทย์ที่เราต้องจัดสรรค์กันว่าจะแบ่งทัพกันยังไง เพราะมีนักเตะที่คาบเกี่ยว 2 ชุด อย่าง “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร
เอเชียนเกมส์ ที่หางโจว ประเทศจีน ก็จัดปีหน้า ในเดือน ก.ย. นับเป็นทัวร์นาเมนท์ที่ 3 ในปีเดียวของทีมชาติชุด 23 ปี
อ้อ และอย่าลืม “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ” ตามวงรอบต้องจัดปีหน้า 2022 ต่อเนื่องเลย หลังจากที่ปี 2020 เลื่อนมาจัด 2021
เป็นงานชุกชุมจริงๆ ของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย
หวังว่าจะเคลียร์คิว ไม่ให้พัลวันกับโปรแกรมไทยลีกได้
อย่าให้ปวดหัว กันแบบที่ผ่านมา.
.
*** วุฒินล ***
