เวลานี้ แวดงวงลูกหนังผู้ดีเวลานี้ กำลังอีรุงตุงนังสุด ๆ …

นับตั้งแต่ “โอไมครอน” บุก ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เป็นทีมแรกเมื่อสักเกือบ ๆ 2 สัปดาห์ก่อน ถึงตอนนี้ ผลกระทบมันกระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต่างจากการการกระจายตัวของเชื้อสายพันธุ์ใหม่เส็งเคร็งนั่น

จนถึงวันที่นั่งทิ่มนิ้วอยู่นี้ (คืนวันศุกร์) เกมพรีเมียร์ลีก เจอโอไมครอนอาละวาด จนต้องเลื่อนไปแล้ว 9 คู่

โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์นี้ เกมถูกยกเลิกไปแล้ว 5 คู่ เหลือโปรแกรมที่ลงเล่นได้แค่ 5 คู่ และไม่รู้ว่าจนวันถึงนาทีที่คุณ ๆ กำลังอ่านอยู่นี้ จะมีการเลื่อนเกมเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า ซึ่งคาดว่าน่าจะมี เพราะหลายคู่ที่ยังเหลือก็มีเคสในทีม…

ส่วนในลีกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ลงไปถึงลีก ทู รวมทั้งหมดเลื่อนไปแล้วถึง 29 คู่…!!!

ณ สภาพปัจจุบัน หลายทีมที่เจอผลกระทบหนัก ๆ แทบไม่เหลือนักเตะ อย่าว่าแต่ลงแข่ง แต่ต้องบอกว่าแทบไม่เหลือนักเตะลงซ้อมเลยด้วยซ้ำ

อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เหลือนักเตะในทีมชุดใหญ่ที่ลงซ้อมได้แค่ 4 คน เรื่องจะลงเตะเลิกพูดไปได้เลย…

แผนการใด ๆ ที่แต่ละทีมวางไว้ คงต้องพับเก็บเข้าเก๊ะ แล้วดูสถานการณ์ต่อหน้าแบบวันต่อวัน วันพรุ่งนี้จะซ้อมได้มั้ย นัดต่อไปจะเตะได้หรือไม่ เท่านั้น สถานการณ์แต่ละวันเหมือนเสี่ยงดวง…

ด้วยสถานการณ์เวลานี้ ทำให้มีข่าวว่าบรรดาผู้บริหารของหลายทีมในพรีเมียร์ลีก เริ่มคุยกันแล้วว่าอยากให้หยุดเตะไปก่อนเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อ หลังปีใหม่ค่อยว่ากันอีกที

กระนั้น เบื้องต้นลีกสูงสุดแดนผู้ดี ยังยืนยันว่าคู่ไหนที่ไม่ได้มีประกาศว่าเลื่อน ก็ให้ลงสนามไปตามโปรแกรมเดิม แต่ทั้งหมดทั้งมวลจะมีการหารือกันในหมู่สโมสรสมาชิกอย่างเป็นกิจจะลักษณะอีกครั้งในวันจันทร์นี้…

เวลานี้มีความเห็นในเรื่องดังกล่าวแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือควรเบรกเพื่อรอให้สถานการณ์ดีขึ้นก่อน ค่อยมาว่ากันใหม่

ส่วนอีกฝ่ายมองว่าเบรกลีกไปก็เท่านั้น มันน่าจะไม่ช่วยอะไรได้มากมาย คู่ไหนเตะได้ก็ให้เตะกันตามโปรแกรมเดิมต่อไป แล้วใช้มาตรการป้องกันอื่น ๆ เอา เพื่อไม่ให้โปรแกรมมันไปอัดแน่นกันมากเกินไปในช่วงท้ายฤดูกาล

เพราะยังไงซีซั่นก็ต้องจบภายในเดือนพฤษภาคม ไม่มีทางยืดยาวไปได้มากกว่านั้น เพราะฤดูกาลหน้าก็ต้องเริ่มเร็ว เพื่อเว้นช่วงเวลาให้ฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ในช่วงปลายปี

ซึ่งดูแล้วมีโอกาสที่พรีเมียร์ลีก จะเลือกทางเลือกที่ 2 เพราะการหยุดเตะทั้งลีกมันส่งผลกระทบมหาศาล ดังที่เคยมีบทเรียนมาแล้วตอนหยุดลีกช่วงการระบาดระลอกแรก

เว้นเสียแต่ว่ามันจะ “เอาไม่อยู่” จนถึงขั้นเตะกันไม่ได้สักคู่ ซึ่งดูจากสถานการณ์เวลานี้

มีโอกาสเป็นไปได้เสียด้วย…

ผยองเดช

เครดิตภาพ : REUTERS