เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ก.ค. ที่สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ตัวแทน 3 สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบไปด้วย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย นำโดยนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ในฐานะนายก ส.ท.ท. พร้อมด้วยนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี และนายสุวรรณวิชช์ เปรมปรีดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโรงจังหวัดกาญจนบุรี ออกแถลงการณ์ เรื่อง ข้อเสนอขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขอเรียกร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  4 ประเด็น ดังนี้

โดยนายพงษ์ศักดิ์ เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์เรื่อง ข้อเสนอขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ความว่า ในนามของ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ได้เห็นสภาพของปัญหาตลอดจนได้มีโอกาสรับฟังปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนในท้องถิ่น ตลอดระยะเวลาของการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ครั้งที่ 3 ที่ผ่านมานั้น รู้สึกมีความกังวลและห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้ง 3 สมาคม ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน จนกระทั่งได้มาซึ่งข้อสรุปในการที่จะเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ใน 4 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นที่ 1 จัดหาชุดตรวจโควิด แบบเร่งด่วน (Rapid Antigen test) เพื่อค้นหาเบื้องต้น ผู้ติดเชื้อที่มีอยู่ในชุมชน และเครื่องตรวจ I–PCR test เพื่อตรวจหาเชื้อยืนยัน ตลอดจนจัดหาบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการเพิ่มสมรรถนะการตรวจหาผู้ติดเชื้อทั้งในระดับจังหวัด และกรุงเทพมหานคร หรือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดซื้อชุดตรวจโควิด แบบเร่งด่วน เพื่อตรวจให้กับประชาชนในท้องถิ่นได้ด้วย เพื่อเป็นการลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ ดังเช่นจะเห็นภาพของประชาชนไปเข้าคิวรอการตรวจเชื้อตั้งแต่ในช่วงกลางคืนเพื่อรอการตรวจเชื้อในวันรุ่งขึ้น

ประเด็นที่ 2 ขอเรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับต่อการแปรเปลี่ยนของสายพันธุ์ไวรัสที่มีการแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วมากขึ้น ขณะเดียวกันขั้นตอนการขออนุมัติในการนำเข้าวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ทั้งในเชิงของการตรวจคุณภาพตลอดจนขั้นการรับรอง ขอให้ลดระยะเวลาในการอนุมัติให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งถือว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่ฉุกเฉินจำเป็นจะต้องแข่งกับเวลาและทุกสิ่งที่สามารถกระทำได้

ประเด็นที่ 3 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงพยาบาลเอกชน สามารถจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 วัคซีนทางเลือกได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นจะต้องจัดซื้อจากหน่วยงานที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (ศบค.) กำหนด ทั้งนี้ เพื่อให้การนำเข้าวัคซีนทางเลือกสามารถที่จะนำเข้ามาได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันขอให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศการรับรองวัคซีนทางเลือกที่อนุญาตให้นำเข้าตลอดจนกำหนดราคากลางเพื่อเป็นมาตรฐานในการจัดซื้อให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนโรงพยาบาลเอกชนให้สิทธิและความเป็นอิสระในการจัดซื้อเป็นของโรงพยาบาลเอกชน

ประเด็นที่ 4 ขอให้ออกระเบียบรองรับในการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 แก่ประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆ ทั้งนี้ โดยข้อเท็จจริงในองค์กรปกครองท้องถิ่นหนึ่งๆ นั้น จะต้องมีประชากรแฝงที่เข้ามาอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะมาศึกษา ประกอบอาชีพ หรือมารับจ้างแรงงาน แม้กระทั่งแรงงานต่างด้าว ซึ่งแรงงานต่างด้าวเหล่านี้อยู่ในพื้นที่มีโอกาสเป็นพาหะแพร่เชื้อให้คนในท้องถิ่น เพราะฉะนั้นแนวนโยบายของ ศบค. ในการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันประชาชนจากการติดเชื้อ อีกนัยหนึ่ง ก็ต้องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะฉะนั้น การเร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่หนึ่งๆให้มากกว่า 70% จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกระทำ โดยเปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่อาศัยในท้องถิ่นไม่เฉพาะเจาะจงประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอาศัยในท้องถิ่น หรือจังหวัดนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตั้งแต่ครั้งที่ 1 จนถึงปัจจุบัน พวกเรา 3 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทำงานร่วมกับทางรัฐบาล และทางจังหวัดมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย แอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ทางการแพทย์ การดูแลอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จนถึงการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามต่างๆ พวกเราตระหนักถึงความจำเป็นและวิกฤตที่เกิดขึ้น และต้องการให้วิกฤติการณ์ครั้งนี้ได้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด จึงหวังว่าข้อเสนอทั้ง 4 ข้อนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วิกฤติการณ์ครั้งนี้คลี่คลายลง และหวังว่ารัฐบาลจะนำข้อเสนอนี้ไปพิจารณาอย่างเที่ยงธรรมบนพื้นฐานบนประโยชน์สูงสุดของประชาชน.