สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเมื่อวันเสาร์ เกี่ยวกับบรรยากาศตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาย้ำกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่าหากรัฐบาลมอสโกเคลื่อนไหวทางทหารข้ามพรมแดนเข้าไปในยูเครน เศรษฐกิจของรัสเซียจะได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


เกี่ยวกับการส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครน เพื่อเผชิญหน้ากับทหารรัสเซียซึ่งอยู่อีกฝั่ง ไบเดนยืนยันว่า “จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด” อย่างแม้หากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) มีมติให้เพิ่มความสนับสนุนด้านความมั่นคงแก่ยูเครน ซึ่งอาจเป็นการกดดันทางอ้อม ให้สหรัฐซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิก ต้องร่วมดำเนินการก็ตาม


ท่าทีล่าสุดของไบเดนเกี่ยวกับรัสเซียและยูเครน เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ “จี 7” ประชุมกันที่เมืองลิเวอร์พูล ในสหราชอาณาจักร และมีแถลงการณ์ “เตือน” รัสเซีย ในเรื่องผลกระทบร้ายแรงทางเศรษฐกิจ

ทหารรัสเซียซ้อมรบ ที่ภูมิภาครอสทอฟ ทางตอนใต้ของรัสเซีย


ขณะที่ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยืนกรานว่า รัสเซียไม่เคยมีแผนเคลื่อนกองทัพข้ามแดนเข้าสู่ยูเครน การเคลื่อนไหวทางทหารทุกครั้งเกิดขึ้นภายในอาณาเขตของตัวเองตลอด เพียงแต่เน้นพื้นที่ซึ่งสุ่มเสี่ยงเผชิญกับภัยคุกคามทางทหารจากนาโต ซึ่งมีสหรัฐเป็นหัวเรือใหญ่


เมื่อมีการซักถามว่า มีโอกาสบ้างหรือไม่ ที่สหรัฐกับรัสเซียจะเป็นพันธมิตรกัน โฆษกทำเนียบเครมลิยตอบว่า “นึกภาพไม่ออกเลย”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, AP