ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา เกมในกลุ่ม A แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมดังในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ซึ่งต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นคว้าอันดับ 3 ของกลุ่มไปเล่นในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และเพิ่งปลด เจสซี มาร์ช พ้นเก้าอี้กุนซือโดยให้ อาคิม ไบเออร์ลอร์เซอร์ คุมทีมแบบขัดตาทัพเป็นเกมแรกนั้น เปิดรัง เรดบึลล์ อารีนา รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่การันตีเข้ารอบไปแน่นอนแล้ว โดยครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่น ที่ยิงขึ้นนำก่อน 1-0 จาก โดมินิก โซบอสซ์ไล ในนาทีที่ 24

เข้าสู่ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นหนีเป็น 2-0 จากการยิงของ อังเดร ซิลวา แต่อีก 4 นาทีถัดมา “เรือใบสีฟ้า” มาได้ประตูไล่เป็น 1-2 จากการหโหม่งของ ริยาด มาห์เรซ แต่ในนาทีที่ 82 ทีมเยือนต้องเหลือ 10 คน หลัง ไคล์ วอล์คเกอร์ เจตนาเตะ อังเดร ซิลวา แบบน่าเกลียด ทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แอร์เบ ไลป์ซิก ชนะ 2-1 ได้ 3 แต้มตามต้องการ

ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่จากศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่การันตีเข้ารอบไปแล้วเช่นกัน เปิดบ้านทุบ คลับ บรูช 4-1 ส่งผลให้บทสรุปในกลุ่มนี้ แมนฯ ซิตี มี 12 คะแนน เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มี 11 คะแนน ตามเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ส่วน แอร์เบ ไลป์ซิก มี 7 คะแนน จบเป็นอันดับ 3 ลงไปเล่นในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ขณะที่ คลับ บรูช มี 4 คะแนน ตกรอบในฐานะบ๊วยของกลุ่ม

เครดิตภาพ : Getty Images, REUTERS