ย่างเข้ากลางเดือน 7 ภาพรวมสถานการณ์โควิดประเทศไทยกราฟตัวเลขคนป่วย-คนตาย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นแรงกดดันทั้งจากในและนอกสภาพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐนาวา อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
(1) สำหรับ “ศึกในสภา” พรรคฝ่ายค้านภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลล็อกเป้าถล่ม พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะโทษฐานบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง
โดยวางกรอบอภิปรายกว้างๆ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักประกอบด้วย (1) กลุ่มการแก้ไขสถานการณ์วิกฤติโควิดล้มเหลว (2) กลุ่มผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและ (3) กลุ่มเรื่องอื่นๆ คาดว่าสามารถเปิดอภิปรายช่วงเดือน ส.ค.
นาทีนี้ฝ่ายค้านรู้ดีเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ประกอบมาตรา 170 กำหนดกติกาชัดเจนการลงมติไม่ไว้วางใจต้องใช้เสียง ส.ส.เกินครึ่งสภาจึงส่งผลให้นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีถูกขับพ้นเก้าอี้ แต่นาทีนี้เสียงรัฐบาลทิ้งห่างฝ่ายค้านมากกว่าครึ่งร้อย ยังไม่นับปัญหา ส.ส.งูเห่า ที่พร้อมแผ่แม่เบี้ยโหวตสวนมติพรรค
ดังนั้นเป้าหลักของการซักฟอกรอบนี้ไม่ได้อยู่ที่ต้องการล้มรัฐบาลแต่หากมีเป้าหมายใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่กลไกตรวจสอบประจานความล้มเหลวการแก้ปัญหาโควิดของรัฐบาล
หวังดิสเครดิตลดความชอบธรรมรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์กรุยทางรอสำหรับการเลือกตั้งในอนาคต!!
(2) สำหรับศึกนอกสภาต้องจับตาความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” อดีตนายกรัฐมนตรีที่จับมือ “กลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย” ที่ส่องสุมนักการเมืองระดับแม่ทัพอดีตพรรคไทยรักไทย พ่วงกลุ่มนักธุรกิจและคนรุ่นใหม่ โดยใช้ช่องทางออนไลน์ “คลับเฮาส์” สื่อสารกับคนไทย
“โทนี่ วู้ดซัม” เปิดประเด็นร้อนแทบทุกสัปดาห์ โชว์กึ๋นโคตรเซียนการตลาดสอนมวย รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งเรื่องแก้ปัญหาโควิด และทางออกวิกฤติเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะคิวล่าสุด “โทนี่ วู้ดซัม”ออกมาสื่อสารไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ แบบตรงไปตรงมา หากต้องการครองเมือง ต้องครองใจประชาชน และพร้อมช่วยหากท่านผู้นำเข้ามาขอคำปรึกษา
พร้อมฟันธงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ไม่ครบเทอม การยุบสภา อย่างช้าเกิดขึ้นไม่เกินเดือน ม.ค.-ก.พ.ปี 2565!!
คู่ขนานกับความเคลื่อนไหวพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย รุ่นบุกเบิกที่เดินเกมปลุกกระแสมวลชนล่ารายชื่อฟ้องรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
ขยี้ปมทุ่มงบประมาณจัดซื้อวัคซีนโควิดที่ไม่สามารถป้องกันโรคระบาดได้จริง เข้าข่ายฝ่าฝืน รัฐธรรมนูญ มาตรา 47
สรุปภาพรวมในช่วง 1 สัปดาห์ มีคนร่วมลงชื่อฟ้องรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทะลุ 5 แสนคน!!
ล้อกับจังหวะที่กลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” นัดระดมพลครั้งใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยวันที่ 18 ก.ค. เวลา 14.00 น. เพื่อมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาลยื่นคำขาด 3 ข้อ (1) พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข (2) ปรับลดงบสถาบัน–กองทัพสู้วิกฤติโควิด (3) หยุดซื้อวัคซีนซิโนแวค และเริ่มนำเข้าวัคซีน mRNA เพื่อฉีดให้กับประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นาทีนี้บอกได้คำเดียวทั้งศึกนอก-ศึกในกำลังรุมเร้ารัฐนาวา หากแก้ปัญหาไม่ถูกวิธีสารพัดปัญหาพร้อมลุกลาม บานปลาย สร้างความเสียหายให้บ้านเมืองชนิดยากจะประเมิน!!.