“บิ๊กฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธานมอบเกียรติบัตรและปิดการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬาสนุกเกอร์ ระดับชาติ (ระดับกลาง) และการอบรมผู้ตัดสินกีฬาสนุกเกอร์ ระดับชาติ (ระดับที่ 2 ขั้นกลาง) ประจำปี 2564 ที่สถาบันพัฒนากีฬาบิลเลียดแห่งเอเชีย ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก พร้อมกล่าวว่า การอบมรมครั้งนี้มีผู้ฝึกสอนกีฬาสนุกเกอร์ระดับนานาชาติและผู้ตัดสินกีฬาสนุกเกอร์ระดับนานาชาติ จากทั่วประเทศเข้าร่วม 42 คน ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.-2 ธ.ค. ซึ่งปัจจุบันเรามีผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินที่ผ่านการอบรมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดย สมาคมฯ ได้ร่วมกับ กกท. และกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ จัดการอบรมขึ้นทุกปี เพื่อพัฒนากีฬาสนุกเกอร์ไปทั่วประเทศ ซึ่งผู้ฝึกสอนเหล่านี้จะนำความรู้จากการอบรมไปสอนนักกีฬาในจังหวัดต่างๆ เพื่อเฟ้นหาดาวรุ่งฝีมือดีก้าวสู่การแข่งขันในระดับอาชีพต่อไป

นายกสอยคิวไทย ยังกล่าวถึงเรื่องกระแสการต่อแต้มของนักสนุกเกอร์มืออาชีพโลก ในการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ว่า ได้อ่านคอมเม้นต์ต่างๆ จากแฟนสนุกเกอร์จำนวนมาก ที่เห็นต่างจากสมาคมฯ จึงอยากอธิบายให้แฟนสนุกเกอร์ให้เข้าใจว่าเดิมทีศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย จะห้ามนักสนุกเกอร์อาชีพของโลก ลงแข่งขัน เพราะมือาชีพโลกกับรายการสนุกเกอร์อาชีพของไทย มาตราฐานนักกีฬาระดับโลกจะสูงกว่า ซึ่งถ้านักกีฬาระดับโลกจะมาร่วมการแข่งขันจะต้องทำการแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบ 128 คนสุดท้าย โดยจะต้องเจอนักสนุ้กที่มืออ่อนกว่ามากพอสมควร ซึ่งถ้าถามนักกีฬาจำนวนมากก็จะตอบว่ามือมันห่างกันมาก แข่งไปยังไงก็แพ้ ทำให้บ่นกับสมาคมฯ ว่าไม่ควรให้มืออาชีพโลกมาเล่นกับนักสนุกเกอร์กึ่งอาชีพไทย ที่สำคัญที่ผ่านมาศึกชิงแชมป์ประเทศไทย จะเป็นช่วงเวลาตรงกับการเล่นอาชีพโลก กฎการห้ามนักสอยคิวระดับโลก ไม่ให้ลงแข่งขันจึงลงตัวพอดี

“มายุคผมที่เป็นนายกสมาคมฯ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็ได้หารือกับกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้ข้อสรุปว่าเพื่อการแข่งขันมีสีสันจึงอนุญาตให้มือระดับโลกลงแข่งขันได้ แต่ต้องลงเล่นในรอบคัดเลือก รอบ 128 คน ก่อน โดยต้องมีแต้มต่อ 7 แต้ม ทุกเฟรมด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ปีนี้ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู ก็จะได้ร่วมดวลคิวในการแข่งขันอีก 2 รายการที่เหลือของปีนี้ด้วย” บิ๊กฮง กล่าว