สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ว่ากระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียเผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันพุธ ว่าเจ้าหน้าที่การทูตชาวอเมริกันคนใดซึ่งประจำการอยู่ในรัสเซียมานานกว่า 3 ปี ต้องเดินทางออกภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565 และ “หากยังไม่สามารถประนีประนอมร่วมกันได้ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง” นักการทูตสหรัฐอีกกลุ่มต้องเดินทางออกจากรัสเซีย ภายในวันที่ 1 ก.ค. ปีเดียวกัน
ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวว่า มาตรการดังกล่าว “เป็นการตอบโต้อย่างสมเหตุสมผล” ต่อการดำเนินการของรัฐบาลวอชิงตัน ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงมอสโก และกระทรวงการต่างประเทศในกรุงวอชิงตัน ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ นายอนาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐ กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าเจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซีย 27 คน และสมาชิกในครอบครัว ต้องเดินทางออกจากสหรัฐ ในวันที่ 30 ม.ค. 2565 และเจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซียชุดต่อไปอีก 27 คน พร้อมสมาชิกในครอบครัว ต้องเดินทางออกจากสหรัฐ ในวันที่ 30 มิ.ย.ปีหน้า
สถานการณ์ดังกล่าวเป็นแบบเดียวกับที่นักการทูตของรัสเซีย 24 คน พร้อมสมาชิกในครอบครัว ต้องเดินทางออกจากสหรัฐ เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา “เนื่องจากวีซ่าหมดอายุ” และรัฐบาลมอสโกจะไม่สามารถส่งนักการทูตชุดใหม่จำนวนเท่ากันมาทำหน้าที่แทนนักการทูตกลุ่มนี้ได้ “จากการที่รัฐบาลวอชิงตันยกระดับมาตรการพิจารณาวีซ่าทางการทูต” สำหรับนักการทูตของรัสเซีย
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงวอชิงตัน ยังคงยืนกรานว่า การที่นักการทูตของรัสเซียต้องเดินทางออกจากสหรัฐ “ไม่ใช่เรื่องใหม่” โดยมีกฎเกณฑ์ระบุชัดเจน ว่าต้องยื่นเอกสารต่ออายุวีซ่าทุก 3 ปี และเมื่อยื่นคำร้องแล้ว “หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาเป็นรายกรณี” แต่ในกรณีทั่วไป รัฐบาลวอชิงตัน “มีความชอบธรรม” ที่จะตอบโต้ “การดำเนินการอย่างไม่เหมาะสม” ของรัฐบาลมอสโก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมอสโกบังคับใช้คำสั่งทางการทูตอย่างเจาะจง มีผลเฉพาะกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา คือห้ามสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงมอสโก ว่าจ้างและทำสัญญาเรื่องงานกับพลเมืองรัสเซีย หรือพลเมืองของประเทศอื่น ยกเว้นตำแหน่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES