นายสุชาติ วงศ์สุภาพ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ปฏิบัติราชการแทนเกษตรอำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า น.ส.นิภาพร สมศรี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ได้แนะนำถ่ายทอดความรู้การทำเกษตรอินทรีย์ให้กับ นายอดุลย์ สังข์ทอง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 220 หมู่ 2 ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งในอดีตมีอาชีพทำไร่อ้อย 9 ไร่ 1 ปี มีรายได้ 1 ครั้ง ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ทั้งค่าจ้างรถไถ ค่ารถเก็บเกี่ยว ค่าพันธุ์อ้อย ค่าปุ๋ย ค่ายากำจัดวัชพืช ค่ายากำจัดแมลง แต่ผลผลิตก็ยังได้ไม่ดีเท่าที่ควร แถมราคาอ้อยยังตกต่ำ
ทาง น.ส.นิภาพร จึงแนะนำให้เปลี่ยนหันมาทำสวนปลูกต้นจำปี โดยซื้อพันธุ์ต้นกล้าจำปี พันธุ์สีขาว มาจากสวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ในราคาต้นละ 100 บาท ลงแปลงเพาะปลูก 50 ต้น ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ต้นทุนการผลิต 20,200 ต่อไร่ รายได้ต่อไร่ ต่อปี 129,600 บาท ราคาดอกละ 0.15 บาท จนถึงราคาดอกละ 1 บาท จะแพงช่วงเดือน ต.ค.ถึง ธ.ค. เพราะอากาศหนาวเย็น จำปีจะออกดอกน้อยมาก ราคาจะอยู่ประมาณดอกละ 1 บาท
โดยต้นจำปีจะออกดอกให้ผลผลิตตอนช่วงอายุ 1 ปี ช่วงเวลาการเก็บดอกจำปี ในช่วงหน้าร้อนจะเริ่มเก็บดอกเวลา 19.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. ส่วนในหน้าหนาว จะเริ่มเก็บช่วงเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เนื่องจากในช่วงหน้าหนาวดอกจำปีจะบานเร็ว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรีบเก็บดอกจำปีในช่วงนี้
ทั้งนี้ น.ส.นิภาพร ยังแนะนำเทคนิควิธีที่บังคับทำให้ต้นจำปีออกดอกได้ดี ในช่วงอากาศหนาวเย็น ซึ่งเป็นช่วงจังหวะช่วงดอกจำปีที่มีราคาแพง ข้อดีของการปลูกต้นจำปี คือการลงทุนครั้งเดียว ผลผลิตอยู่ได้หลายปี ขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษา สิ่งที่สำคัญคือการตัดแต่งกิ่ง ศัตรูพืชมีน้อย สามารถเก็บดอกได้ 13,000 ดอก จนถึง 15,000 ดอก ต่อวัน รายได้เฉลี่ยวันละ 1,950 บาท ส่วนการตลาดนั้นจะมีแม่ค้าคนกลางจาก จ.นครปฐม มารับซื้อในพื้นที่ทุกวัน ในเวลา 13.00 น. จนถึงเวลา 14.00 น. เพื่อนำไปส่งขายต่อให้กับแม่ค้าแผงร้อยพวงมาลัยในย่านปากคลองตลาด กรุงเทพมหานคร