บสย.ผลักดัน SMEs ไทยต้องไปต่อ เปิด “สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 2” พร้อมค้ำอีก 1 แสนล้านครอบคลุมธุรกิจในวงกว้าง ปรับลดค่าธรรมเนียม จ่ายเบา เริ่มต้นเพียง 1% พร้อมย้ำ การพิจารณาอนุมัติเฟส 2 มีความรวดเร็ว ฉับไว เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อม และดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง รู้ผลอนุมัติค้ำประกันภายใน 3 วัน เชื่อมั่น สามารถพยุงกิจการของผู้ประกอบการ ให้สามารถลดปัญหาการปิดกิจการ และชะลอการเลิกจ้างได้
คุณวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า “โครงการค้ำประกันสินเชื่อ พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 2” ที่ บสย. ได้เปิดรับคำขอค้ำประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ที่เข้าร่วมโครงการเมื่อ 6 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยมีการกำหนดผู้ประกอบการเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
1.ผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร (Micro) หรือผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย โดยกลุ่มนี้ถ้าเป็นลูกค้าสถาบันการเงินที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมไม่เกิน 5 ล้านบาท จะได้วงเงินไม่เกิน 30% ของสินเชื่อเดิมหรือสูงถึง 1.5 ล้านบาท ในขณะที่ถ้าไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินเลยจะได้วงเงินสูงถึง 1.5 ล้านบาท
2. ผู้ประกอบการ SMEs หากเป็นลูกค้าสถาบันการเงินที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมระหว่าง 5 – 50 ล้านบาท จะได้วงเงินไม่เกิน 30% ของสินเชื่อเดิม หรืออยู่ระหว่าง 1.5 – 15 ล้านบาท ในขณะที่ถ้าไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินเลยจะได้วงเงินอยู่ที่ 1.5 – 15 ล้านบาท
3. กลุ่มคอร์ปอเรท (Corporate) ลูกค้าสถาบันการเงินที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมระหว่าง 50 – 500 ล้านบาท จะได้วงเงินไม่เกิน 30% ของสินเชื่อเดิม หรืออยู่ระหว่าง 15 – 150 ล้านบาท ในขณะที่ถ้าไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินเลยจะได้วงเงินอยู่ที่ 15 – 50 ล้านบาท
โดยจุดเด่นของ พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 2 นั้น ได้มีการปรับเกณฑ์การค้ำประกันสินเชื่อให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และกลุ่ม SMEs เปราะบาง เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนค่าธรรมเนียม และเพิ่มโอกาสได้วงเงินสินเชื่อเพิ่ม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ปรับลดค่าธรรมเนียมค้ำประกันทันทีตั้งแต่ปีแรก สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และ กลุ่ม SMEs เปราะบาง จ่ายเบาๆ เริ่มต้นเพียง 1% ต่อปีต่อเนื่อง 4 ปีแรก รวม 13% ตลอดระยะเวลา 10 ปี
2. เพิ่มโอกาสผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และกลุ่ม SMEs เปราะบาง ได้รับวงเงินสินเชื่อ เพิ่มขึ้นสูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย จากเดิม 15 ล้านบาทต่อราย
3. เพิ่มโอกาสให้ SMEs ได้รับสินเชื่อ โดยสร้างความมั่นใจให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อโดย บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยเต็ม 100% ใน กลุ่มไมโคร จากเดิม 90% และ กลุ่ม SMEs เปราะบาง จากเดิม 80%
สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มคอร์ปอเรท (Corporate) ได้เพิ่มการช่วยเหลือ โดยลดภาระต้นทุนในส่วนของการจ่ายค่าธรรมเนียม 1% ต่อปีต่อเนื่อง 2 ปีแรก รวม 14% ตลอดระยะเวลา 10 ปี โดย บสย. ค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาท ต่อราย ต่อสถาบันการเงิน และมีระยะเวลาค้ำประกัน สูงสุดถึง 10 ปี
นอกจากนี้ บสย.ยังได้ส่งเสริมการลงทุนและบริการธุรกรรมทางการเงินเพื่อพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดย บสย.จะเข้าไปช่วยค้ำประกันสินเชื่อ ให้ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มต่างๆ กลุ่มนำเข้า ส่งออก และผู้ประกอบการรายย่อย ที่เข้าไปลงทุนในพื้นที่ EEC ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อร่วมกับสินเชื่อของธนาคารพันธมิตร เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการให้บริการธุรกรรมทางการเงิน ปลุกการลงทุนในพื้นที่ EEC ให้คึกคักมากขึ้น
ในส่วนของกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อฟื้นฟู เฟส 2 ยังมีความรวดเร็ว เพียงผู้ประกอบการเตรียมเอกสารให้พร้อม และดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง ได้แก่
1. ผู้ขอสินเชื่อติดต่อธนาคารพร้อมยื่นเอกสาร
2. ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
3. ธนาคารนำส่งเอกสารให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
4. ธนาคารส่งคำขอค้ำประกันสินเชื่อมาที่ บสย.
5. บสย. ตรวจสอบเอกสาร ถูกต้อง ครบถ้วน
6. อนุมัติค้ำประกัน
7. บสย. แจ้งอนุมัติพร้อมส่งเอกสารเพื่อให้ธนาคารนัดหมายผู้ขอสินเชื่อ
8. ผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อ หากเอกสารและการดำเนินการครบถ้วน จะทราบผลอนุมัติค้ำประกันภายใน 3 วัน
สำหรับผู้ประกอบการที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับคำปรึกษาฟรี ได้ที่ บสย. Call Center และศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย. F.A. Center) โทร. 0-2890-9999 หรือติดต่อที่ สำนักเขต บสย. ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ