สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ว่าองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เผยแพร่รายงานว่า แม้ปัจจุบันแอฟริกามีสถิติการได้รับมอบวัคซีนโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการฉีดวัคซีนครบแล้วในบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า คิดเป็นเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น ซึ่งปัจจัยสำคัญรวมถึง ความลังเลเรื่องวัคซีน และบริการฉีดวัคซีนที่ยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท


สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสวนทางกับกลุ่มประเทศร่ำรวยที่สุด 22 อันดับแรกของโลก ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบครอบคลุมบุคลากรการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในประเทศของตัวเองแล้วมากกว่า 80%


ยกตัวอย่าง ไนจีเรีย ประเทศซึ่งมีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา มีบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว เพียง 300,000 คน จากทั้งหมด 1.6 ล้านคน คิดเป็นเพียง 18% เท่านั้น แต่ผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในแอฟริกา ปรากฏว่า มีเพียง 40% ประสงค์รับวัคซีนโควิด-19


ทั้งนี้ อัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในทวีปแอฟริกาที่ยังคงต่ำมากในหมู่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเฉพาะสุขภาพส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่การแพทย์แต่ละคนเท่านั้น แต่ยังจะมีผลกระทบไปถึงผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า แทบทุกประเทศในแอฟริกายังคงขาดแคลนบุคลาการแพทย์อย่างมาก


ในส่วนของอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชากรในทวีปแอฟริกา ซึ่งมีประชากรรวมกันประมาณ 1,200 ล้านคนนั้น อัตราการฉีดวัคซีนครบครอบคลุมประชากรเพียง 7% โดยปัจจัยสำคัญเกี่ยวข้องกับการส่งมอบวัคซีนที่ล่าช้า และความลังเลของประชาชนในพื้นที่.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES