ทำอย่างไรให้เราเป็นคนเฮงมากกว่าคนเก่ง ?     

การบริหารจัดการความเพลินเป็นอีกแบบฝึกหัดคำตอบของชีวิต ฝึกบริหารใจทำให้เราไม่เกิน เช่น การทำงาน บางครั้งเพลินไป ก็เกินความพอดี ต้องมีใครมาดึงสติ มาตักเตือนเราบ้าง ถ้าไม่มี เดี๋ยวเราก็เพลินไปเรื่อย     

แต่ถ้ามีใครมาตรวจสอบ มาโต้แย้ง เราก็จักได้สติรู้ตัว มีมิตรเหมือนนาฬิกาปลุก “อย่าใช้พฤติกรรมเดิมๆ กับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง”     

วันนี้ใครจะไปคิดว่า เด็กอายุไม่ถึง 15 ปี จะหาเงินจากโซเชียลสร้างบ้านได้สามสี่ล้านบาท เพราะยุคนี้เป็นยุคแห่งการทำมาหากิน ไม่ใช่ยุคที่มัวแต่อิจฉาริษยากันอยู่ ใครมัวแต่อิจฉาริษยา ไม่เกิดประโยชน์ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก      

บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งเปิดรับสมัครเลขานุการผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารดูประวัติของแต่ละคนแล้ว ส่วนใหญ่จบการศึกษาจากเมืองนอก ภาษาอังกฤษดี แต่การสัมภาษณ์ไม่ได้เน้นเรื่องความรู้ แต่เน้นการทดสอบเรื่องวุฒิภาวะมีคําถามในการสัมภาษณ์งานข้อหนึ่งถามว่า “ถ้าคุณเข้ามาในห้องผู้บริหาร แล้วคุณเห็นผู้บริหารลวนลามผู้หญิงอยู่ คุณจะตอบว่าเห็นหรือไม่”     

คนที่หนึ่ง ตอบทันที “ไม่เห็นค่ะ” (ถ้าเห็น แล้วตอบว่าไม่เห็น ผู้เข้าสัมภาษณ์คนนี้จึงอยู่ไม่ได้)     

คนที่สอง ตอบทันที “เห็นค่ะ” (คนนี้ตอบตามความจริง ก็อยู่ไม่ได้)      

คนที่สาม ยิ้มแล้วตอบว่า “เรื่องนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ไม่ใช่เรื่องงาน ท่านต้องจัดการตัวท่านเอง เพราะไม่ใช่ภาระงานที่ดิฉันต้องช่วยท่านทำ” (คนนี้ บริษัทตอบรับเข้าทำงาน เพราะมีปฏิภาณไหวพริบดี)     

ทุกวันนี้ บางบริษัทต้องการค้นหา “คนเฮง” มากกว่า “คนเก่ง” เพราะคนเก่งมีมากแล้ว จึงต้องการคนเฮงเข้าไปเสริมทีม     

จะมีวิธีอย่างไรให้เราเป็นคนเฮงมากกว่าคนเก่ง คนเฮง ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะเฮงได้ แต่ควรเป็นคนประพฤติตนดี ปฏิบัติตัวง่ายงาม

อย่างคนที่ดูแลบำรุงเลี้ยงพ่อแม่ คนแบบนี้ ฟ้ามีตาเทวดามีใจ ส่วนคนที่ถูกลอตเตอรี่บ่อยๆ หรือเลื่อนตำแหน่งบ่อยก็อย่าไปอิจฉา แสดงว่า คนๆนั้นต้องมีสิ่งดีๆมาเกื้อหนุน มีบุญรักษา ไม่ใช่ว่าชอบนินทาคนแล้วจะถูกลอตเตอรี่ หรือจะมีคนชื่นชม

คนเฮง เพราะเป็นคนมีน้ำใจ เจอหมูหมากาไก่ พบคนตกทุกข์ได้ยากก็ให้ความเมตตา จังหวะที่บุญบารมีที่ได้สะสมไว้จะเต็มเปี่ยม เมื่อมีเหตุใดๆ เกิดขึ้น สิ่งที่ทำมาจะส่งผล       

ฝากคาถาเฮงๆ ไว้ 5 ข้อ ที่จะทำให้เราเป็นคนเฮง คือ จังหวะดี, กาลเทศะดี, จักขุมา (วิสัยทัศน์) ดี, เสนา (ทีม) ดี และมีปัญญา (แก้ไขปัญหา) ดี      

คำพระท่านสอนว่า “รู้เรา เรียกว่า มีสติ  รู้เขา เรียกว่า มีปัญญา”  ส่วน รู้จังหวะ ในที่นี้ คือ ต้องมีทั้งสติและปัญญา รู้อะไรก็ไม่สู้รู้จักกัน หายใจลึกๆ แล้วบอกตัวเองว่า      

“รู้อย่างงี้ฉันเฮงตั้งนานแล้ว” 

……………………………………………….

คอลัมน์ : ลานธรรม

โดย : พระสุธีวชิรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานพระธรรมวิทยากรเครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี