นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ได้ดำเนินภารกิจการขุดลอกพัฒนาและบำรุงรักษาร่องน้ำจำนวน 2 จังหวัด 2 แห่ง ได้แก่ 1.ชายฝั่งทะเลร่องน้ำบ้านหัวแหลม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี และ 2.บำรุงรักษาฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยา ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ลดอุทกภัยและภัยแล้ง  

โดยมีความคืบหน้าการดำเนินการดังนี้ สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 หน่วยปฏิบัติงานขุดลอกร่องน้ำบ้านหัวแหลม จ.จันทบุรี ใช้รถขุด จบ.2 และเรือเจ้าท่า ข.400 ดำเนินการขุดลอกระยะทาง 1,750 เมตร ความกว้างก้นร่องน้ำ 10 เมตร ความลึก 1.50 และ 1.00 เมตร จากระดับน้ำลงต่ำสุด ปริมาณวัสดุขุดลอก 48,999.75 ลูกบาศก์เมตร เปิดหน่วยฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.-ปัจจุบันขุดลอกได้ระยะทาง 1,318 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอกจำนวน 35,518 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 75.34% เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขความตื้นเขินของร่องน้ำจากตะกอนทราย เศษวัสดุที่สะสมกีดขวางแนวร่องน้ำ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินเรือ ช่วยในการระบายน้ำในฤดูฝน 

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะที่สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 1 หน่วยปฏิบัติงานขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สิงห์บุรี โดยใช้เรือเจ้าท่า ข.29 และเรือเจ้าท่า 229 เป็นเครื่องจักรในการปฏิบัติงาน ดำเนินการขุดให้ได้ความกว้างก้นร่องเท่ากับ 35 เมตร ระดับความลึกก้นร่องเท่ากับ -3 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระยะทางประมาณ 500 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอกจำนวน 47,000 ลูกบาศก์เมตร เปิดหน่วยเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.64 (กม. 216+450 ถึง กม. 216+950) ปัจจุบันขุดลอกได้ระยะทาง 287 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอกจำนวน 27,751 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 54.05

เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและรองรับน้ำหลาก ลดอุทกภัยและผลกระทบที่อาจเกิดกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมทั้งการคมนาคมขนส่งในลำน้ำ เรือสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา ส่งเสริมประมงพื้นบ้านเพื่อเศรษฐกิจชุมชน การขนส่งเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือชายฝั่ง อำนวยความสะดวกการท่องเที่ยว ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศและประกาศกรมเจ้าท่าอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งระหว่างเดินทางทางน้ำเพื่อความปลอดภัย ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างเคร่งครัด