เมื่อวันที่ 11 พ.ย. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.นำกำลังจับกุม น.ส.เอ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ข้อหา “ใช้คำหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม, พยายามฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สิน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายฯ, ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” หลังสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้ปลอมเอกสารของแพทย์หญิงรายหนึ่งมาสมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลาที่สถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทอง กทม.
ทั้งนี้ทราบว่า น.ส.เอ นั้นเคยถูกจับกุมมาแล้ว 3 ครั้ง ศาลเคยสั่งจำคุก 7 ปี เพิ่งจะพ้นโทษมาเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ผู้ต้องหาก็แอบอ้างนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาใช้สมัครงานเป็นแพทย์นอกเวลาที่สถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง ก่อนถูกจับกุมในคดี “ลักทรัพย์, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” พนักงานสอบสวน นำตัวส่งฝากขัง พร้อมขอคัดค้านประกันตัวอีกด้วย
ต่อมาหลังจากผู้ต้องหาได้ประกันตัวแล้ว ก็ยังพบว่ามาทำความผิดซ้ำแบบเดิม โดยนำใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาปลอมแปลงตัดต่อ นำใบหน้าของตนเองใส่ในใบประกอบวิชาชีพแล้วนำเอกสารดังกล่าว มาใช้สมัครทำงานที่สถานเสริมความงามดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้แพทย์หญิง ผู้เสียหาย มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ก่อนมีการเข้าจับกุมดังกล่าว
สอบสวน น.ส.เอ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้าตนได้โพสต์กระทู้ในเว็บไซต์ต่างๆ อ้างว่า จะเปิดสถานเสริมความงาม ต้องการรับสมัครแพทย์มาทำงาน พร้อมให้ส่งเอกสารมาให้ทางไลน์ หลังได้รับเอกสารแล้ว ก็จะคัดเลือกแพทย์หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับตน จากนั้นก็นำเอกสารดังกล่าวมาใช้ เพื่อสมัครทำงานในสถานเสริมความงามใน กทม. กระทั่งมาถูกจับกุม
จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหายังพบอีกว่า เคยถูกจับกุมดำเนินคดีลักษณะเดียวมาแล้วถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี 2556 ศาลพิพากษา จำคุก 7 ปี ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2559 คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม และครั้งล่าสุดคือเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า ฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการสถานเสริมความงาม ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจเสียก่อน โดยสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา หรือเว็บไซต์ของสำนักสถานพยาบาลฯ ซึ่งถ้าไม่มีข้อมูลก็ให้สงสัยว่าอาจเป็นคลินิกเถื่อนก็เป็นได้.