สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่ดวันที่ 11 ก.ค.ว่าหนังสือพิมพ์ เดอะ ไมอามี เฮรัลด์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดการสืบสวนสอบสวน คดีการลอบสังหารประธานาธิบดีโฌเวเนล โมอิส ผู้นำเฮติ  ซึ่งร่วมสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องสงสัย 19 คน ที่แบ่งเป็นทหารรับจ้างชาวโคลอมเบีย 17 คน และพลเมืองเฮติ-อเมริกัน 2 คน  เปิดเผยว่า แผนการในวันเกิดเหตุ คือเมื่อช่วงรุ่งส่งของวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา คือการควบคุมตัวโมอิสออกจากบ้านพัก ไปยังทำเนียบที่ตั้งอยู่ในกรุงปอร์โตแปรงซ์เช่นกัน
หนังสือเดินทางโคลอมเบีย และอุปกรณ์ส่วหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ของเฮติยึดได้จากกลุ่มคนร้าย
ขณะที่พลเมืองเฮติ-อเมริกัน 2 คน คือ นายเจมส์ โซแลงส์ และนายโจเซฟ วินเซนต์  ยืนยันกับพนักงานสอบสวน ว่าทำหน้าที่ล่ามให้กับกลุ่มทหารรับจ้างชาวโคลอมเบียเท่านั้น และเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุทีหลัง แต่เมื่อเข้าไปภายในบ้านพัก ปรากฏว่า พบโอมิสนอนหมดลมหายใจอยู่ภายในบ้านพัก
ในอีกด้านหนึ่ง พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) เดินทางไปยังเฮติแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือหน่วยงานในพื้นที่ แต่ยังไม่มีความชัดเจน ว่าทีมงานชุดนี้จะปักหลักอยู่ในเฮตินานเท่าใด ส่วนประเด็นที่ว่า นายโคลด โจเซฟ รักษาการนายกรัฐมนตรีเฮติ ขอความช่วยเหลือ "ด้านความมั่นคง" จากสหรัฐนั้น พล.ร.ต.เคอร์บีย์ กล่าวว่า "กำลังพิจารณา" แต่แหล่งข่าวในเพนตากอนกล่าวว่า "ไม่มีนโยบาย".

เครดิตภาพ : REUTERS