สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ก.ค.โดยอ้างจากรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แลกเปลี่ยนสารระหว่างกัน เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี สนธิสัญญาความช่วยเหลือและความร่วมมือมิตรภาพ ซึ่งทั้งสองประเทศลงนามร่วมกัน เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2504
เนื้อหาสำคัญในสารของผู้นำหนุ่มแห่งเกาหลีเหนือ ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเปียงยางกับรัฐบาลปักกิ่ง "มีความสำคัญระดับสูงสุด" สำหรับเกาหลีเหนือ ท่ามกลางสถานการณ์อันซับซ้อนและเปราะบางเช่นนี้ ซึ่งรวมถึงการที่เกาหลีเหนือยังคงต้องเผชิญกับ "การคุกคามจากกองกำลังต่างชาติ" อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีนและเกาหลีเหนือยังคงสามารถรักษาระดับของความไว้เนื้อเชื่อใจ และการเป็นพันธมิตรทางทหารระดับทวิภาคีแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า สนธิสัญญาฉบับนี้ช่วยปกป้องอุดมการณ์สังคมนิยม และสันติภาพในเอเชีย
ขณะที่สาระสำคัญในสารของประธานาธิบดีจีน ระบุถึงการยกระดับความร่วมมือกับเกาหลีเหนือ "สู่ระดับใหม่" และการเพิ่มพูนความร่วมมือโดยตรงระดับผู้นำ พร้อมทั้งการส่งความปรารถนาดีไปยังชาวเกาหลีเหนือ เนื่องในโอกาสพิเศษนี้
ทั้งนี้ จีนถือเป็นประเทศผู้อุปถัมภ์รายใหญ่และสำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือในทุกด้าน รวมถึงด้านการทูต ซึ่งจีนเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) โดยรัฐบาลปักกิ่งสามารถชะลอหรือยับยั้งความพยายามของตะวันตก ที่ต้องการเพิ่มมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือได้หลายครั้ง
ด้านรายงานโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ( เอฟเอโอ ) คาดการณ์ผลผลิตธัญพืชของเกาหลีเหนือในปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 5.6 ล้านตัน “ถือว่าเกือบถึงค่าเฉลี่ย” เนื่องจากยังน้อยกว่าความต้องการของประชากรทั้งประเทศอีกประมาณ 1.1 ล้านตัน
แม้รัฐบาลเปียงยาง “มีแผนการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ” อีกประมาณ 205,000 ตันเท่านั้นในปีนี้ แต่เท่ากับว่าปีนี้จะเป็นปีที่เกาหลีเหนือต้องขาดแคลนอาหารอีกประมาณ 860,000 ตัน หากไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที มีแนวโน้มสูง ที่ครัวเรือนในเกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ “ภาวะอดอยากรุนแรง” ระหว่างเดือน ส.ค.ถึง ต.ค.ปีนี้.
เครดิตภาพ : REUTERS