อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้พูดถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “หมอหมู วีระศักดิ์” ซึ่งเปิดผลการศึกษาวิจัยใหม่ล่าสุดว่า “เลิกสูบบุหรี่นานแค่ไหน ร่างกายถึงจะกลับมาเป็นปกติ”
โดยหมอหมู ระบุข้อความว่า “การศึกษาวิจัยใหม่ล่าสุด โดยนักวิจัยในเกาหลีใต้ ชี้ให้เห็นว่าอาจต้องใช้เวลามากกว่า 25 ปี ที่ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจจะลดลงเหลือเท่ากับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่เลย และยิ่งไปกว่านั้น ผลการศึกษายังเผยให้เห็นว่า ผู้ที่เลิกบุหรี่จัดซึ่งสูบมาเป็นเวลานานกว่า 8 ปี มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน เช่นเดียวกับผู้ที่ยังสูบบุหรี่อยู่
นอกจากนี้ การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร JAMA นักวิจัยได้ตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของอดีตผู้สูบบุหรี่มากกว่า 100,000 ราย และผู้ไม่เคยสูบบุหรี่มากกว่า 4 ล้านราย โดยผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ถูกติดตาม 10 ปี การศึกษาพบว่า
- ความเชื่อมโยงระหว่างการสูบบุหรี่และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดขึ้นอยู่กับปริมาณของการสูบบุหรี่ ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่สูบบุหรี่เพียงเล็กน้อยจะพบว่าความเสี่ยงลดลงค่อนข้างเร็วหลังจากเลิกสูบบุหรี่
- ผู้ที่เคยสูบบุหรี่จัด ซึ่งสูบบุหรี่มาอย่างน้อย 8 ปี นักวิจัยสรุปว่า อาจต้องใช้เวลาถึง 25 ปี จึงจะลดลงเหลือเท่ากับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย
อีกทั้ง สารเคมี 7,000 ชนิดในบุหรี่ รวมทั้งทาร์และสารอื่นๆ สามารถทำลายหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปยังหัวใจ ในขณะที่ “นิโคติน” ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้เสพติดได้ง่าย มีความเชื่อมโยงอย่างมากกับอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นอันตราย นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งทำให้ปริมาณออกซิเจนที่เราได้รับลดลง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดที่หมอหมูนำเสนอ มีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน และหมอหมูได้พยายามอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่บางครั้งอาจมีการโต้แย้งในข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในแวดวงวิชาการ ดังนั้น จึงขอเรียนทุกท่านว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความของหมอหมู และควรหาข้อมูลเพื่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูล : หมอหมู วีระศักดิ์