เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นำสำนวนการสอบสวนคดีร้านทองแม่ตั๊ก มาส่งให้พนักงานอัยการ โดยมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย คือ น.ส.กรกนก หรือ แม่ตั๊ก, นายกานต์พล หรือ เบียร์ และบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และโฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด รวมทั้งหมด 5 ข้อหา

ขณะเดียวกัน นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ “เคนโด้” และผู้เสียหายจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาพร้อม ระบุว่า ตนทราบว่าวันนี้เป็นวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. จะนำสำนวนเกี่ยวกับคดีโกงทองของแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ มาส่งให้อัยการ ซึ่งตนได้นำกลุ่มผู้เสียหายมาเนื่องจากมีความวิตกกังวลใจว่า ถ้าทางผู้ต้องหาอาจได้ประกันตัวออกมา จึงจะมายื่นเรื่องเพื่อคัดค้านการปล่อยชั่วคราว ด้วยเกรงว่าอาจจะออกมายุ่งเหยิงพยานหลักฐานและคุกคามผู้เสียหาย

โดยตนตั้งข้อสงสัยว่า ทรัพย์สินหลายรายการของผู้ต้องหาอย่างเช่น เงินสด 2-3 ล้าน กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ทางตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถยึดทรัพย์มาได้ มีเพียงรถยนต์ไม่กี่คันเท่านั้น ดังนั้นหากผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกมา ก็เหมือนมาเสพสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น ทั้งนี้ขอถามเจ้าหน้าที่ว่าใครอมทรัพย์สินดังกล่าวไป หรือมีผู้อยู่เบื้องหลังคนใดนำทรัพย์สินไปซุกซ่อนไว้ อีกทั้งไม่ทราบว่าการดำเนินคดีฟอกเงินไปถึงขั้นตอนไหน ทำไมไม่มีการกล่าวถึงการยึดทรัพย์ มันผิดวิสัยของการดำเนินคดี

ด้าน คุณเนย ผู้เสียหาย กล่าวว่า ไม่อยากให้ได้ประกันตัวและเห็นในโลกออนไลน์มีทีมที่คอยสนับสนุนแม่ตั๊กให้กำลังใจและขอวอนประชาชนสังคมให้อภัยให้โอกาส โดยส่วนตัวตนมองว่า โอกาสของแม่ตั๊กมีมาตั้งนาน แต่ไม่ใช้ กลับนำมาเอาเปรียบประชาชน ขายของโดยที่รู้ว่าจะทำให้ผู้อื่นเสียหาย ถ้าเกิดผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว เกรงว่าจะมาคุกคามข่มขู่ผู้เสียหายที่ดำเนินการฟ้องร้องจนมาถึงขั้นตอนนี้ ส่วนตัวจึงมองว่าผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ควรได้รับโอกาสออกมาสู้คดีข้างนอก แต่ควรที่จะชดใช้ในสิ่งที่ผู้ต้องหาทั้งหมดกระทำผิดข้างใน เมื่อถามถึงกรณีที่ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ 18 บอส ดิไอคอน เตรียมดำเนินคดีกับนายเคนโด้ ทำให้บริษัทดิไอคอนเสียหาย

เคนโด้ กล่าวตอบว่า ที่ผ่านมาตนเองได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไว้หมดแล้วว่าเรื่องดังกล่าว การเตรียมความพร้อมในการต่อสู้คดีหากโดนฟ้อง ก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่สามารถจะหักล้างกับการกล่าวหาของฝ่ายทนายได้ แต่จากการตรวจสอบไปยังพนักงานสอบสวน ยังไม่พบว่ามีการเข้ามาแจ้งความเกี่ยวกับตนเองแต่อย่างใด พร้อมมองว่าการเปิดเผยของทนายบางครั้ง วิงวอนสื่อมวลชนอย่าให้ค่าหรือให้พื้นที่มากเกินไป กับทนายที่มีการข่มขู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อซื้อเวลาในการต่อสู้คดี และการกล่าวอ้างทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างมั่นใจควรต้องไปเจอกันที่ศาลไม่ใช่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน

ส่วนเรื่องจะมีการออกหมายจับของตำรวจหรือไม่ ตนเองไม่ได้กังวล แต่ขอสื่อมวลชนอย่าตั้งคำถามชี้นำเพราะเหตุการณ์ต่างๆ ยังไม่เกิดขึ้น และคำถามดังกล่าวเป็นลักษณะของการปั่นกระแสที่จะทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย หากตนเองผิดจริง ก็ไม่สามารถที่จะมายืนในจุดนี้ได้ และควรจะไปเรียกร้องกับกลุ่มบอส ดิไอคอน ให้มาชดใช้ให้กับผู้เสียหายจะดีกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางอัยการได้ขอเลื่อนเวลานัดส่งสำนวนกับพนักงานสอบสวน ปคบ. เป็นเวลา 13.00 น. แทน