เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลที่เกิดขึ้นเมื่อวาน (4 พ.ย.) ว่า หลักๆ มีการพูดคุยเรื่อง MOU 44 ขอให้ประชาชนสบายใจ ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเกาะกูดตั้งแต่แรก ประเทศไทยและกัมพูชาไม่มีข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับเกาะกูดเลย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเส้นแบ่งเขตแดนของใครก็แล้วแต่ ไม่มีเรื่องเกาะกูดเข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถตัดทิ้งไปได้ เพราะไม่ได้อยู่ในข้อกังวลของ MOU 44 ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้น เกิดจากการใช้มาตรการการลากเส้นเขตแดน คนละแนวคิด จึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนขึ้นมา และพื้นที่ทับซ้อนก็มีทรัพยากรใต้ดิน เกี่ยวกับปิโตรเลียม จึงได้มีการพูดคุยและขอยืนยันว่าไม่ใช่ข้อขัดแย้ง เพียงแต่เห็นไม่ตรงกันจึงต้องมีคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC)

นายวราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เรามี JTC และร่วมหารือกับกัมพูชามาโดยตลอด แต่การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจากนายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องมีการตั้ง JTC ฝั่งไทยขึ้นมาใหม่ ซึ่งขั้นตอนนี้มีการดำเนินการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และขอฝากประชาชนอย่าเอาประเด็นการเมืองมาสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ มันหนักหนาสากรรจ์ และเป็นคนละประเด็น การทำงานระหว่างไทยและกัมพูชา ยังมีการพูดคุยเพื่อให้เกิดข้อตกลงโดยเร็วที่สุด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง หรืออธิปไตยของเกาะกูดแต่อย่างใด เพราะเกาะกูดยังเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดตราด และไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ จากฝ่ายกัมพูชา

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (OCA) ระหว่างไทย-กัมพูชา ยังจะต้องมีการเจรจากันต่อ ไม่ใช่ว่าเราเสียเปรียบ ยืนยันว่าไม่มีประเทศใดได้เปรียบทั้งนั้น