นับตั้งแต่เข้ามาในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคในปี 2019 อิทธิพลของ เอดู เติบโตขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งกลายเป็นผู้อำนวยการกีฬาคนแรกของอาร์เซนอลในปี 2022

เอดู เป็นที่รู้จักมากที่สุดในงานสรรหาทีมชุดใหญ่ ตั้งแต่พูดคุยกับมิเกล อาร์เตตา ตลอดจนทีมงานสโมสร และดำเนินการจนการซื้อขายลุล่วง แต่นอกเหนือจากนั้น เอดู เกี่ยวพันกับหลายฝ่ายเช่นกัน

เอดู มีบทบาทสำคัญในทีมหญิง มีส่วนร่วมในการหาโค้ชใหม่ต่อจากโจนาส ไอด์วัลล์ เขาทำงานร่วมกับ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ที่ดูแลอคาเดมี มีบทบาทในการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างอนาคต และยังเคยพูดถึงกลยุทธ์ของทีมยู-8 ของอาร์เซนอลด้วย เท่ากับว่า เอดู มีบทบาทจริงๆ กับอาร์เซนอลเยอะมาก ครอบคลุมหลายส่วนของสโมสร

ทีมงานของสโมสรยังชื่นชมเอดูสำหรับสไตล์การสื่อสารที่ชัดเจน เป็นหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อขวัญกำลังใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

แต่คนที่จะคิดถึง เอดู มากที่สุดคือมิเกล อาร์เตตา

อาร์เตตา ยังเคยพูดติดตลกว่าตนคุยกับเอดูมากกว่าภรรยาตัวเองด้วยซ้ำ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก เนื้อหาพูดคุยไม่ใช่แค่เรื่องนักเตะ แต่ยังไปถึงเรื่องส่วนตัวและครอบครัวด้วย

เอดูมีส่วนสำคัญในการเซ็นสัญญากับนักเตะที่ได้สร้างรากฐานให้กับทีม เช่น มาร์ติน โอเดการ์ด และ เดแคลน ไรซ์ นอกจากนี้ก็มีส่วนกับการที่ทีมสามารถต่อสัญญานักเตะอย่าง บูกาโย ซากา, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และเบน ไวท์

แต่ก็แน่นอนว่า เอดู ไม่ได้ทำถูกต้องทุกอย่าง การเซ็นสัญญาราคาแพงอย่าง ฟาบิโอ วิเอรา ชัดเจนว่าล้มเหลว รวมถึงหลายคน เช่น วิลเลียน, เซดริก ซัวเรซ และ ปาโบล มารี กระนั้นอาจบอกว่าความสำเร็จมีมากกว่าความล้มเหลว

อาร์เตตา กำลังสูญเสียพันธมิตรที่สำคัญและมีอิทธิพลในทีม ต้องติดตามว่าอาร์เซนอลจะหาใครมาแทนหรือปรับโครงสร้างใหม่อย่างไร

ริชาร์ด การ์ลิค กำลังมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในการตัดสินใจที่อาร์เซนอล และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสโมสรอื่นๆ โดยเฉพาะในฟุตบอลอังกฤษ ขณะที่ ทิม ลูอิส ยังมีอิทธิพลมากขึ้นนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารในปี 2023

การ์ลิค และ ลูอิส รวมถึง อาร์เตตา จะตัดสินใจเกี่ยวกับผู้สืบทอดของเอดู

การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ไม่แน่ว่าอาจทำให้อาร์เซนอลดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าเดิม ก็ยังไม่มีใครรู้.