พญ.ประณีต สัจจเจริญพงษ์ คลินิกผัวหนัง โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ออกมาบอกกล่าวถึง อาการเลือดไหล ซึมตามผิวหนัง จมูก และดวงตา นับเป็นโรคสุดแปลกที่หาได้ยากและพบได้น้อยมาก โรคนี้มีชื่อทางการแพทย์ว่า Hematidrosis หรือในภาษาไทยจะเรียก “โรคเหงื่อไหลเป็นเลือด” ซึ่งจากรายงานทางการแพทย์มักพบว่าโรคนี้เกิดในกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 12-14 ปีเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถพบได้ทั้งในเด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงวัย โดยเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

สาเหตุของการเกิดโรคเหงื่อไหลเป็นเลือด

อาการของโรคเหงื่อไหลเป็นเลือดไม่ได้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางกาย แต่เกิดจากสภาวะทางจิตใจที่ทำให้เกิดโรค โดยมักเกิดหลังจากที่คนไข้ประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้มีความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรงจนมีความเครียด ความกังวล ความกลัว หรือมีอาการตกใจ เมื่อร่างกายตกอยู่ในสภาวะเหล่านั้นจะส่งผลให้การทำงานของเส้นเลือดแดงที่พันอยู่รอบต่อมเหงื่อมีความผิดปกติ จนเกิดการรั่วซึมของเม็ดเลือดแดงเข้ามายังต่อมเหงื่อ ทำให้ของเหลวที่ปกติแล้วจะเป็นน้ำใสๆ ที่เราเรียกว่าเหงื่อมีเม็ดเลือดปนจนกลายเป็นสีแดง และถูกขับออกมาเป็นอาการของโรค

อาการของโรคเหงื่อไหลเป็นเลือด

ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดไหลซึมออกมาจากผิวหนังโดยไม่มีบาดแผล มีลักษณะคล้ายกับเหงื่อออก สามารถออกได้ทั่วร่างกาย รวมทั้งทางจมูกและทางดวงตา ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นจะไม่มีความเจ็บปวดใดๆ และไม่ได้มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ

วิธีการรักษาโรคเหงื่อไหลเป็นเลือด

เนื่องจากสาเหตุของโรคเกิดจากสภาวะทางจิตใจ ในทางการแพทย์จึงแนะนำให้ใช้การรักษาด้วยยาตามแพทย์สั่งร่วมกับการเข้ารับบำบัดทางจิตใจจากจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัด เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายจากความเครียดหรือความกังวลต่างๆ โรคนี้ยังไม่มีผลการรักษาที่แน่ชัดว่าจะหายขาด เพราะหากยังมีสภาวะจิตใจที่เครียดอยู่โอกาสที่อาการของโรคจะกลับมาก็เกิดขึ้นได้

หากพบว่าตัวเองมีอาการต่างๆ ข้างต้น แนะนำว่าควรรีบพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด จะได้ยืนยันผลว่าร่างกายไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด แต่อาการที่เกิดนั้น เกิดจากสภาวะทางจิต ซึ่งก็จะได้รับการรักษาอย่างตรงสาเหตุ