นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีคณะกรรมการสรรหา เลื่อนการประชุมเพื่อสรรหาประธาน (บอร์ด) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จาก 4 พ.ย.67 เป็นวันที่ 11 พ.ย.67 พร้อมมีกระแสข่าวการเปลี่ยนรายชื่อจากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด ส่วนจะมีการเสนอรายชื่อใหม่จริงหรือไม่ มองว่าเป็นเรื่องที่ผู้ที่รับผิดชอบทั้งหมดจะต้องคุยกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจของกรรมการสรรหา และกระทรวงคลัง รวมถึง ธปท. จะพิจารณา
ทั้งนี้ อะไรก็ตามที่ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ทุกคนพอใจ เข้าอกเข้าใจ เป็นเรื่องดีที่สุด อยากจะให้ทุกฝ่ายคุยกัน ส่วนกรณีว่าคลังจะส่งรายชื่อนายพงษ์ภาณุแทนนายกิตติรัตน์นั้น ผมไม่ทราบ ให้เป็นหน้าที่ของปลัดคลังที่จะเป็นคนเสนอชื่อ ส่วนความล่าช้าของเรื่องนี้เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการบริการจัดการและการทำงานของ ธปท. เพราะว่ายังมีรักษาการอยู่ โดยตามอำนาจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มองว่าก็สามารถเสนอรายชื่อใหม่ได้ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคลังและ ธปท. เพื่อให้ทั้งหมดเดินหน้าไปตามกระบวนการ
ส่วนที่มีความกังวลการเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง มาชิงตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท. นั้น อาจจะเป็นโอกาสให้เข้ามาล้วงเงินคงคลังได้ง่ายนั้น นายพิชัย ระบุว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน และไม่สามารถล้วงเงินคงคลังได้ และส่วนตัวมองว่า ประธานบอร์ด ธปท. ตามอำนาจไม่ได้มีอะไรมากมาย เพราะเรื่องสำคัญจริง ๆ จะไปอยู่ที่คณะกรรมการชุดย่อย ๆ เกือบหมด