สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอีสต์แลนซิง รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่านางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ และแคนดิเดตของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย. ปราศรัยที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตต ให้คำมั่นว่า หากได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ เธอจะทำทุกอย่างภายใต้อำนาจที่มีอยู่ เพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา
ขณะเดียวกัน แฮร์ริสแสดงความเชื่อมั่นกับผลการเลือกตั้งที่จะออกมา โดยกล่าวว่า “ความได้เปรียบอยู่เคียงข้าง” ตัวเธอ ทั้งนี้ รองผู้นำหญิงสหรัฐเร่งหาเสียงกับกลุ่มประชากรมุสลิมในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะที่รัฐมิชิแกนซึ่งเป็นสวิงสเตต และเป็นชุมชนมุสลิมขนาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 200,000 คน ท่ามกลางผลสำรวจความคิดเห็นจากแทบทุกสำนักที่เป็นไปในทางเดียวกัน ว่าพรรคเดโมแครตกำลังสูญเสียความนิยมจากหมู่ประชากรมุสลิมในสวิงสเตต เนื่องจากสงครามในฉนวนกาซาที่ยืดเยื้อ และยังคงรุนแรง อีกทั้งยังขยายวงไปสู่เลบานอน
ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และตัวแทนพรรครีพับลิกัน กล่าวระหว่างการขึ้นเวทีปราศรัย ที่เมืองคินสตัน ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา แสดงความเชื่อมั่นว่าจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ “แบบแลนด์สไลด์” และกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่สอง เพื่อทำให้อเมริกา “กลับมายิ่งใหญ่ขึ้น ดีขึ้น ร่ำรวยยิ่งขึ้น ปลอดภัยและแข็งแกร่งมากกว่าเดิม”
ทั้งนี้ ผลสำรวจโดย “มอร์นิง คอนซอลต์” ปรากฏว่า แฮร์ริส มีคะแนนนิยมนำทรัมป์ 49% ต่อ 47% แต่ลดลงจากการนำ 3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และนำ 4% ในการสำรวจสองครั้งก่อนหน้านั้น ส่วนผลสำรวจโดยสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ ร่วมกับศูนย์วิจัยอิปซอส พบว่า แฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำเหนือทรัมป์ 49% ต่อ 46% ลดลงจาก 51% ต่อ 47% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ผลสำรวจโดยสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ ร่วมกับวิทยาลัยอีเมอร์สัน ให้แฮร์ริสและทรัมป์มีคะแนนนิยมเสมอกันที่ 49% และยาฮูนิวส์ร่วมกับยูกอฟ ให้ผู้สมัครทั้งสองคนมีคะแนนนิยมเสมอกันที่ 47%
เมื่อวิเคราะห์แยกเฉพาะกลุ่มรัฐที่เป็นสวิงสเตต พบว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมเบียดกันอย่างสูสี โดยทรัมป์มีคะแนนนิยมนำที่รัฐเพนซิลเวเนีย นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย เนวาดา และแอริโซนา ส่วนแฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำในรัฐวิสคอนซินและมิชิแกน
นอกจากนี้ การคาดการณ์โดย projects.fivethirtyeight.com วิเคราะห์ว่า หากมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 100 เสียง ทรัมป์มีโอกาสรวบรวมได้ 53 เสียง และแฮร์ริส 47 เสียง และนายเนต ซิลเวอร์ หนึ่งในนักสถิติชื่อดังระดับโลกชาวอเมริกัน ทำนายว่า ทรัมป์มีโอกาสชนะที่ 51.5%.
เครดิตภาพ : AFP