เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ย. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับการเปิดเผยจากคณะพนักงานสอบสวน คดีพิเศษที่ 119/2567 หรือกรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด หลังดีเอสไอรับดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อจากสำนวนคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. กระทั่งดีเอสไอ เตรียมแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ เป็นอีกหนึ่งฐานความผิด นอกจาก 2 ฐานความผิดเดิม อันประกอบด้วย ฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ

‘ดีเอสไอ’ จ่อฟันแชร์ลูกโซ่ ‘ดิไอคอน’ หลังหารือร่วมสคบ.-สนง.เศรษฐกิจการคลัง

คณะพนักงานสอบสวน เผยว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชุดคลี่คลายคดีดิไอคอน เบื้องต้นวันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 11 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ทาง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คดีพิเศษหลายนาย และกองคดีที่เกี่ยวข้อง อย่างกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ

เพื่อหารือเนื้อหาสาระสำคัญของคดี และการมีมติร่วมกันว่าดีเอสไอจะแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ ต่อบุคคลใดบ้าง หลังจากที่ รรท.อธิบดีดีเอสไอ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่คดีพิเศษเร่งตรวจสอบสำนวนคำให้การของผู้เสียหาย และคำให้การของผู้ต้องหา นอกจากนี้ ใจความสำคัญในสำนวนคำให้การของผู้เสียหาย พบว่าส่วนใหญ่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนธุรกิจของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป โดยเฉพาะพฤติการณ์ที่เน้นให้มีการเปิดบิลตัวแทนจำหน่าย มากกว่าการเน้นขายผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกัน เวลา 12.30 น. ที่บริเวณด้านหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีพยานบุคคล 20 ราย จากทั้งหมด 2,000 ราย ซึ่งเป็นพยานในส่วนของทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล เข้าให้ข้อมูลกับคณะพนักงานสอบสวนคดีดิไอคอน

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ทาง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ อาจได้มีการมอบหมายให้ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าแก่สื่อมวลชนที่ปักหลักติดตามรายงานข่าวต่อไป