เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่จ.อำนาจเจริญ  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ และนายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคอีสาน ได้ร่วมกันลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร พืช 5 ชนิด รวมถึงร่วมมอบเช็คชําระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในจังหวัดดังกล่าว

โดยนายจุรินทร์ กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่ง ว่า  จากการมาลงพื้นที่ครั้งนี้ได้พบว่าเกษตรกรพอใจกับโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร เพราะช่วยให้เกษตรมีรายได้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่อาจทำให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่ยังมีรายได้จากการประกันราคาสินค้า สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง  ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ยังมีโครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ด้านการส่งออก โดยในการลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานีเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นกู้มาแล้ว 26 ราย วงเงิน 77.7 ล้านบาท ซึ่งธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จะพิจารณาให้เสร็จใน 7 วันทำการ

นายจุรินทร์  กล่าวอีกว่า  การดูแลประชาชนในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ 14 วันนั้น ตนได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามทั้งปริมาณและความต้องการสินค้าต่างๆ ถ้าพบว่าผู้ใดมีการกักตุนสินค้า ก็จะถูกดำเนินคดี เพราะถือว่ามาซ้ำเติมสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน  ดังนั้น ประชาชนสามารถร้องเรียนมาได้ที่โทรศัพท์สายด่วน 1569  นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดขบวนรถโมบายจำหน่ายสินค้าราคาถูกเป็นกรณีพิเศษเพื่อเข้าไปใน 10 จังหวัด จำนวน 300 คัน จะกระจายทันทีเช้าวันที่ 12 ก.ค. และจนกว่าจะจบการล็อกดาวน์ โดยสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายในรถโมบายนอกจากสินค้าทั่วไปราคาพิเศษแล้ว จะมีสินค้าอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันโรคโควิด-19 อาทิ หน้ากากอนามัยราคาพิเศษ เจลล้างมือ แอลกอฮอล์  โดยจะทำราคาให้ถูกที่สุดและลงไปช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในจังหวัดที่มีการล็อกดาวน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม ตนเตรียมลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วย