ถือเป็นแพลตฟอร์มวีดีโอสั้นระดับโลกที่ “ฮอตฮิต” อย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำหรับแอปพิลเคชั่น  “TikTok” ส่วนในประเทศไทยก็เช่นกัน เป็นโซเซียลมีเดียที่ครองใจคนวัยทีนนไปทางไหนก็มีแต่คนเล่น คนทำคอนเทนต์ลง “TikTok” เต็มไปหมด

ด้วยฐานผู้ใช้งานกลุ่มใหญ่ที่เป็นคนรุ่นใหม่อายุน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนก็มีไม่น้อยทำให้ แพลตฟอร์มอย่าง“TikTok” ก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

วันนี้คอลลัมน์ “ชีวิตติด TECH” มีข้อมูลเรื่องเครื่องมือเพื่อความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม TikTok จากงาน “Thailand Safety Summit 2024” มาบอกกัน

สิริประภา วีระไชยสิงห์

พวกเราที่ใช้งาน “TikTok” กันอยู่ทุกวันรู้หรือไม่?ว่า “TikTok” ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการท่องโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย   และได้พัฒนาเครื่องมือด้านความปลอดภัย เพื่อให้ครอบครัวและผู้ใช้ที่เป็นเยาวชนมีความพร้อมจากการใช้เครื่องมือและมีทรัพยากรที่ดีที่สุด

โดยใน Transparency Report  ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับความพยายามด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์ม  และแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงที่สำคัญของระบบ Content Moderation และ Community Guideline Enforcement ซึ่งปรับปรุงความเข้าใจในเนื้อหาและช่วยคาดการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ในประเทศไทย  ได้มีการลบวิดีโอที่ละเมิดกฏกว่า 2,884,325 วิดีโอ ออกจากแพลตฟอร์ม และมีอัตราการตรวจพบเชิงรุกสูงถึง 99.3% พร้อมการดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อลบเนื้อหาที่ละเมิดกฎกว่า 93.1% ออกจากแพลตฟอร์มภายใน 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกันได้ปรับปรุงด้านการลบวิดีโอที่ละเมิดกฎโดยอัตโนมัติ ซึ่ง ปัจจุบันสามารถลบวิดีโอที่ละเมิดกฎได้ 80% (เพิ่มขึ้นจาก 62% จากปีที่ผ่านมา และ เพิ่มประสิทธิภาพในอัตราการตรวจจับ โดย 98.2% ของวิดีโอที่ละเมิดกฏถูกลบก่อนมีการรายงานจากผู้ใช้ นับเป็นผลลัพธ์สูงสุดในไตรมาสที่ผ่านมา (เม.ย.-มิ.ย. 67)

นอกจากนี้ วิดีโอที่ถูกกู้คืนหลังถูกลบน้อยลง โดยมีสัดส่วนของวิดีโอทั้งหมดที่ได้รับการกู้คืนหลังถูกลบลดลงมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งการคัดกรองคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมนั้น ได้มีการใช้เทคโนโลยี เอไอ ในการตรวจจับ รวมถึงการมอนิเตอร์ของคน ซึ่งติ๊กต็อกมีพนักงานกว่า 4 หมื่นคนทั่วโลก ที่รู้ภาษาในท้องถิ่นนั้นๆ ในการตรวจดูคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมและลบออกจากแพลตฟอร์ม

อย่างไรก็ตามภายในงาน  “Thailand Safety Summit 2024” ทาง  TikTok ยังได้ ประกาศเปิดตัว Guardian’s guide และ Teen Safety Center ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุดเพื่อช่วยให้ทุกครอบครัวสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือเพื่อความปลอดภัยของแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเพิ่มความปลอดภัยสำหรับเยาวชนและครอบครัวไทยผ่านการนำผู้เชี่ยวชาญ สถาบันทางวิชาการ ครีเอเตอร์ และมุมมองจากเยาวชน ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

“สิริประภา วีระไชยสิงห์”  หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ  ของ TikTok บอกว่า  Guardian’s Guide ฉบับใหม่ จะทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมสำหรับพ่อแม่และผู้ปกครอง โดยนำเสนอเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้สื่อดิจิทัลของเยาวชน คู่มือฉบับครบวงจรนี้จะช่วยให้ครอบครัวสามารถสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่สมดุลและปลอดภัย ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกหลานจะสามารถแสดงออกได้อย่างสร้างสรรค์

ในขณะที่ยังได้รับการปกป้องในโลกดิจิทัล นอกจากนี้ ทาง  TikTok ยังได้ปรับปรุง  Teen Safety Center ใหม่ พร้อมพัฒนาข้อเสนอแนะและคำแนะนำจาก TikTok global Youth Council ซึ่งเป็น 15 ผู้นำเยาวชนซึ่งมาจากหลากหลายประเทศ ยังมีบทบาทสำคัญในการออกแบบฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกโดยตรงจากผู้ใช้ที่เป็นเยาวชนเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ  อาทิ  แนะนำให้มีเนื้อหาที่เป็นภาพมากขึ้น การเพิ่มฟีเจอร์แบบโต้ตอบได้ เช่น แบบทดสอบ และมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการบล็อกและรายงานเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

“TikTok เป็นแพลตฟอร์มสำหรับครอบครัวที่สามารถสร้างสรรค์และแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน เราจึงพยายามที่จะส่งเสริมทุกครอบครัวด้วยเครื่องมือที่จำเป็น และได้เปิดรับฟังเสียงของเยาวชนและต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายผ่านข้อเสนอแนะของพวกเขา เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ด้วยความปลอดภัยของผู้ใช้และชุมชน นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเรา”  สิริประภา วีระไชยสิงห์ กล่าว

 ทาง “ TikTok” ยังได้ นำเสนอฟีเจอร์ต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ใช้ทุกวัย  ได้แก่ Family Pairing : TikTok ร่วมมือกับ Family Online Safety Institute (FOSI) ในการเพิ่มขีดความสามารถของเครื่องมือกรองเนื้อหาภายใต้ฟีเจอร์ Family Pairing เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมประเภทเนื้อหาที่เยาวชนเห็นได้มากขึ้น โดยผู้ปกครองสามารถ เพิ่มคีย์เวิร์ดที่ตรงความต้องการเฉพาะของวัยรุ่นได้  

ภาพ pixabay.com

และสามารถกำหนดเวลาการใช้งานรายวันได้ โดยแนะนำค่าเริ่มต้นที่ 60 นาที เมื่อเยาวชนใช้งานครบเวลา พวกเขาจะต้องใส่รหัสผ่านเพื่อรับชมต่อ เอื้อให้เกิดการหยุดพักและทบทวนว่าจะใช้ต่อหรือไม่ ฟีเจอร์นี้เหล่านี้ช่วยให้ครอบครัวสร้างขอบเขตทางดิจิทัลที่เหมาะสมและเคารพอำนาจการตัดสินใจที่เพิ่มขึ้นของเยาวชนในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ยังได้พัฒนา ฟีเจอร์ Content ที่ช่วยกำกับดูแลเนื้อหาที่ซับซ้อนของแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะการปกป้องผู้ใช้งานที่เป็นเยาวชน ระบบนี้จะตรวจจับและกำหนดความเหมาะสมตามเกณฑ์อายุของผู้ชมต่อวิดีโอโดยอัตโนมัติ หรือป้องกันไม่ให้นำเสนอเนื้อหาที่มีเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่เกินไปต่อการเข้าถึงผู้ใช้อายุ 13-17 ปี

การใช้งานร่วมกันระหว่าง Family Pairing และการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของบัญชี ยังช่วยสร้างกรอบความปลอดภัยที่มากขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะเยาวชนและผู้ปกครองสามารถตัดสินใจการใช้สื่อดิจิทัลของตนเอง

สุดท้ายแล้วผู้บริหารของ  “ TikTok”  ระบุว่า การพัฒนาฟีเจอร์และปรับปรุงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยบน TikTok จะมีการพัฒนาต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้  เพื่อช่วยให้ครอบครัวและวัยรุ่นสามารถท่องโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น!

Cyber Daily