เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 ต.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการ ตำรวจสืบสวนนครบาล จับกุมตัว นายนรีรัตน์ อายุ 28 ปี สาวประเภทสอง พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ Iphone 13 Pro Max และแท็บเล็ต Ipad รุ่น Air 2 สีขาว โดยจับกุมได้ที่หอพัก ซอยสวนหลวง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม.
สืบเนื่องจากแนวทางการสืบสวนพบว่าหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวได้ผูกลงทะเบียนไว้กับทวิตเตอร์ หรือ X โดยผูกชื่อผู้ใช้งานทวิตเตอร์ดังกล่าวว่า “Nareerat” ทราบชื่อภายหลังคือ นายนรีรัตน์ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ มีเหตุอันน่าเชื่อว่า นายนรีรัตน์ มีพฤติการณ์ในลักษณะการผลิตและครอบครองสื่อลามกอนาจาร รวมทั้งมีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ในช่องทางทวิตเตอร์ดังกล่าว จึงได้ทำการขอหมายจับและเข้าจับกุมตัวดังกล่าว หลังจับกุมตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบสื่อลามกอนาจารทั้งคลิปวิดีโอและภาพถ่ายของเด็กและผู้ใหญ่เป็นจำนวนมาก อยู่ในไฟล์คลังวิดีโอและคลังภาพในมือถือของผู้ต้องหากว่า 30,000 คลิป
นายนรีรัตน์ ให้การรับว่า คลิปอนาจารบางส่วนตนได้ทำการโหลดเก็บเอาไว้เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และบางคลิปอนาจารก็เป็นคลิปที่ได้มีเพศสัมพันธ์กับเด็กหรือเยาวชนและบุคคลทั่วไปที่รู้จักพูดคุยและนัดหมายมาพบกันตามสถานที่ที่ได้ตกลงนัดหมายกันอาทิ คอนโดฯ หอพัก หรือรีสอร์ท แล้วแต่กรณี จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบว่าในเว็บไซต์ OnlyFans มีผู้ติดตามจำนวน 236 คน ผู้กดถูกใจประมาณ 10,600 คน และพบคลิปลามกอนาจารขณะมีเพศสัมพันธ์กันของผู้ต้องหากับบุคคลอื่นจำนวน 191 คลิป
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา รับว่า คลิปสื่อลามกอนาจารดังกล่าวเป็นของตนที่ได้อัปโหลดลงไว้เพื่อให้หารายได้ จากการที่มีบุคคลที่สนใจสมัครเข้ามาดูคลิปอนาจารที่ตนได้ลงไว้ โดยจะได้รับค่าตอบแทนของสมาชิกที่เข้ามาดูเป็นรายคน คนละ 7–11 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 200-300 บาท/1 แอคเคานท์ /1 เดือน) โดยได้เริ่มสมัครเป็นสมาชิกใน OnlyFans ตั้งแต่ปี 2562 เรื่อยมา จากการตรวจสอบพบว่ามีรายได้จากการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารตั้งแต่เริ่มทำจนถึงปัจจุบัน คิดเป็นเงิน 161,963.44 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,412,724.8 บาท) โดยเงินค่าตอบแทนดังกล่าวจะโอนเข้าบัญชีธนาคารของนายนรีรัตน์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้ง 5 ข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพ์ ประกอบด้วย 1. ทำ ผลิต มีไว้ซึ่งสื่อลามกอนาจารเพื่อความประสงค์แห่งการค้าฯ 2.ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามก 3.โฆษณาหรือไขข่าว ทำให้แพร่หลายซึ่งสิ่งของลามกอนาจาร 4.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และ 5.เผยแพร่ หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ลักษณะลามกอนาจาร จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป