สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมาดริด ประเทศเปน เมื่อวันที่ 1 พ.ย. เกี่ยวกับความคืบหน้า เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในภูมิภาคทางตะวันออกและทางใต้ของสเปน ซึ่งเป็นผลจากอิทธิพลของพายุที่ก่อตัวในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และส่งผลให้ฝนตกกระหน่ำมากผิดปกติ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ ถึงขั้นบางพื้นที่มีปริมาณฝนสะสมภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เทียบเท่าสถิติตลอดทั้งปี
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งแคว้นบาเลนเซีย ทางตะวันออกของสเปน ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยหนักหน่วงที่สุด ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 155 ราย ขณะที่ทางการแคว้นกัสติยา-ลามันชา ซึ่งอยู่ทางตอนกลาง และมีพรมแดนติดกับแคว้นบาเลนเซีย รายงานการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และทางการแคว้นอันดาลูซิอา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสเปน ยืนยันผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย
ด้านครัวเรือนราว 75,000 แห่งยังคงประสบกับปัญหาไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ในเวลาเดียวกัน นายออสการ์ ปูเอ็นเต รมว.กระทรวงคมนาคมสเปน เตือนทุกฝ่ายว่า อาจต้องใช้เวลานานถึง 3 สัปดาห์ ในการที่จะกลับมาเปิดใช้งานเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมระหว่างกรุงมาดริดกับแคว้นบาเลนเซีย
อนึ่ง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดของสเปน นับตั้งแต่น้ำท่วมครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150 ราย เมื่อปี 2516 และเพิ่มความวิตกกังวลให้กับทุกฝ่าย เกี่ยวกับความรุนแรงที่เป็นผลจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก โดยในที่ตกในสเปนสัปดาห์นี้มีปริมาณมากกว่า ช่วงเวลาก่อนที่โลกจะเผชิญกับภาวะโลกร้อนราว 12%.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES