สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ว่านายแอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า ข้อมูลข่าวกรองของรัฐบาลวอชิงตันยังไม่ได้บ่งชี้ชัดเจน ว่าทหารเกาหลีเหนือเข้าสู่สมรภูมิในยูเครนแล้ว แต่ตอนนี้มีทหารเกาหลีเหนือไม่ต่ำกว่า 8,000 นาย ปักหลักอยู่ที่ภูมิภาคเคิร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย เพื่อรอคำสั่งในการเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่ยูเครน
ทหารเกาหลีเหนือได้รับการฝึกฝนการใช้อากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) การใช้ปืนใหญ่ และหลักการสู้รบพื้นฐานของการเป็นทหารราบ ซึ่งรวมถึงการทำลายสนามเพลาะ บ่งชี้ว่า รัสเซียต้องการอาศัยกำลังทหารเกาหลีเหนือเหล่านี้สู้รบในแนวหน้า
ขณะที่นายคิม ยง-ฮยอน รมว.กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนสหรัฐ และพบหารือกับบลิงเคนด้วย กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากการส่งทหารช่วยรัสเซียสู้รบครั้งนี้ นับตั้งแต่สงครามในยูเครนเปิดฉาก เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 รัฐบาลเปียงยางส่งชีปนาวุธให้แก่รัสเซียแล้วมากกว่า 1,000 ลูก
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือทดสอบชีปนาวุธข้ามทวีป ( ไอซีบีเอ็ม ) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเป็นการทดสอบไอซีบีเอ็มเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. ปีที่แล้ว
ด้านสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง รายงานว่า การทดสอบขีปนาวุธที่เกิดขึ้น คือการทดสอบไอซีบีเอ็มรุ่นล่าสุด “ฮวาซอง-19” ซึ่งนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวว่า กาทดสอบครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับ “นโยบายการป้องปรามด้านนิวเคลียร์” ของประเทศ และ “เป็นการส่งสัญญาณไปยังบรรดาปรปักษ์” ให้ได้ประจักษ์ถึง “ขีดความสามารถในการตอบโต้” ของเกาหลีเหนือ
ส่วนข้อมูลข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุด้วยว่า เกาหลีเหนือยิงไอซีบีเอ็มลูกนี้ในลักษณะวิถีโค้ง ซึ่งขีปนาวุธเคลื่อนที่อยู่ในอากาศได้นานประมาณ 86 นาที เดินทางได้ไกลเป็นระยะทางราว 1,000 กิโลเมตร ที่ระดับความสูงประมาณ 7,000 กิโลเมตร จากฐานยิงในกรุงเปียงยาง และตกลงในทะเลตะวันออกหรือทะเลญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม หากยิงในมุมปกติ ไอซีบีเอ็มลูกดังกล่าวสามารถเดินทางได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ.
เครดิตภาพ : AFP