วันนี้ (31 ต.ค.2567) นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายหลุยส์ เรนาโต เด อัลกันตารา รัว ผช.รมต.การค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สาธารณรัฐบราซิล ว่า บราซิลถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกา และแคริบเบียน และอันดับที่ 23 ของไทยในโลก โดยในปี 2566 ไทยและบราซิล มีมูลค่าการค้ารวม 6,266 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปีนี้ ยังเป็นปีที่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 65 ปี โดยเห็นว่าบราซิลจะสามารถเป็นประตูการค้าสำคัญสำหรับสินค้าไทยในภูมิภาคอเมริกาใต้ เช่นเดียวกับที่บราซิลสามารถ ใช้ไทยเป็นประตูการค้าสินค้าในภูมิภาคอาเซียนได้เช่นกัน
ทั้งนี้ไทยและบราซิลมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการค้าระหว่างกันเพิ่มเติม โดยเฉพาะการค้าสินค้าเกษตร และบราซิลยังพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และเทคนิคการเลี้ยงวัวแบบ Grass fed หรือ การเลี้ยงวัวที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ และกินหญ้าสดๆจากพื้นดิน การหารือครั้งนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็น และแจ้งข้อห่วงกังวลในประเด็นด้านการเกษตรต่าง ๆ ให้แต่ละฝ่ายได้รับทราบ เพื่อหาแนวทางออกร่วมกันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายต่อไปนอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ไทยและบราซิลสามารถยุติประเด็นข้อพิพาทคดีน้ำตาลในองค์การการค้าโลก(WTO) ซึ่งเป็นประเด็นมากกว่า 8 ปีได้อย่างเป็นการถาวร เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 13 ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส โดยการที่ทั้งสองประเทศสามารถยุติปัญหาดังกล่าวนับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่างไทยและบราซิล ตลอดจนการยึดมั่นตามหลักการและพันธกรณีความตกลงระหว่างประเทศของไทย
นางนลินี กล่าวว่า ตนยังได้ใช้โอกาสนี้ผลักดันและส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทย โดยเฉพาะอาหารไทย ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เช่น ลิซ่า และภาพยนตร์ซีรีย์ Y และที่สำคัญคือกีฬามวยไทย โดยกีฬามวยไทยนั้นได้รับความนิยมอย่างสูงในบราซิล โดยประเมินว่ามี ชาวบราซิลกว่า 2 แสนคนที่ฝึกฝนมวยไทย และมีสมาคมมวยไทยระดับรัฐในบราซิลที่ได้รับการรับรองใน 22 รัฐ (จากทั้งหมด 27 รัฐทั่วบราซิล)