เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อติดตามและรับฟังปัญหาด้านการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติด และกระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดในโครงการมินิธัญญาลักษณ์ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งนอกจากจะเป็นการติดตามงานตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงนโยบายแล้ว ยังเป็นการดำเนินการเพื่อให้สอดรับกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคอาเซียนในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศลาวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา  โดยที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มีการตั้งอัครราชทูตที่ปรึกษาด้านการควบคุมยาเสพติดใน 5 ประเทศ ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา และจีน เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งในและต่างประเทศสอดรับกับแนวทางในการแก้ไขปัญหา 

นายจิรายุ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายกฯ จะเป็นประธานการประชุม ที่วัดเขวาทุ่ง  อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อสั่งการและกำหนดรูปแบบในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดใกล้เคียง และจะกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ พร้อมทั้งเตรียมขยายผลความสำเร็จเพื่อสานต่อนโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี  รวมทั้งจะเร่งรัดให้สัมฤทธิผล โดยพบว่า มีพื้นที่ที่มีปัญหายาเสพติดรุนแรงทั้งหมด 25 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการในครั้งนี้ นายกฯ จะติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยจากการติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายระยะแรกเมื่อเดือน มิ.ย. ถึงวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาในพื้นที่ 25 จังหวัด  ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร  ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ ชลบุรี และกาญจนบุรี ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา กาฬสินธุ์ อุดรธานี นครพนม มหาสารคาม ร้อยเอ็ด หนองคาย มุกดาหาร สกลนคร หนองบัวลำภู เลย บึงกาฬ และ ขอนแก่น ส่วนที่ภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล ซึ่งที่ผ่านมาจากที่ได้รับรายงาน มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งมีผลการจับกุมผู้ผลิตรายใหญ่และรายเล็ก จากทุกส่วนราชการ ซึ่งทำให้ประชาชนมีความปลอดภัย และมั่นใจในสังคมที่ดีมากขึ้น.