บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ประกาศความสำเร็จในการคว้ารางวัล SET Awards ประจำปี 2024 จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จด้านความยั่งยืน (Sustainability Awards of Honor) และรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จด้านนวัตกรรม (SET Awards of Honor) ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า รางวัลที่ได้รับครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ปตท. ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างประโยชน์ทั้งต่อองค์กร ประเทศ และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานทุกคนในการเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ภายใต้แนวคิด ‘ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน’
ด้านความยั่งยืน ปตท. ได้รับรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จด้านความยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามพันธกิจหลักในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานควบคู่ไปกับการบูรณาการความยั่งยืนเข้าสู่ทุกกระบวนการธุรกิจ โดยมีเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2593 หรือ ค.ศ. 2050
ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการที่ ปตท. ได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนภายใต้แนวทาง C3 ได้แก่
1. Climate Resilience Business: ปรับโครงสร้างธุรกิจและพิจารณาปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนควบคู่ไปกับการเติบโต
2. Carbon-Conscious Asset: ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ใช้พลังงานสะอาด และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้
และ 3. Coalition, Co-Creation, and Collective Efforts for All: ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีในการลดก๊าซเรือนกระจก
สำหรับด้านนวัตกรรม ปตท. ได้รับรางวัล Best Innovative Company Awards ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ได้แก่ ปี 2021 ได้รับรางวัลจากผลงานการพัฒนานวัตกรรมวัสดุปิดแผลไบโอเซลลูโลสคอมพอสิต Innaqua, ปี 2022 ได้รับจากนวัตกรรม PTT EV Charger and Charging Platform, ปี 2023 ได้รับจากผลงานตัวเร่งปฏิกิริยา PTT SCR และในปีนี้ นวัตกรรมที่ได้รับการยกย่องคือ ‘นวัตกรรมเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนไมโครสเกล’ หรือ‘PTT MicroHX’
PTT MicroHX นับเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรม โดยสามารถนำพลังงานเหลือทิ้งในรูปของความร้อนหรือความเย็นกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านกระบวนการกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery) ส่งผลให้ลดต้นทุนด้านพลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม นอกจากนี้ นวัตกรรมดังกล่าวยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยและลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
ปัจจุบัน นวัตกรรมดังกล่าว ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วกว่า 40 ฉบับ ใน 9 ประเทศทั่วโลก และได้นำไปติดตั้งใช้งานเชิงพาณิชย์แล้วในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง อาทิ โรงงานผลิตถุงมือยางในจังหวัดชลบุรี และโครงการ LNG Terminal 1 ของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการนำนวัตกรรมนี้ไปประยุกต์ใช้ในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้น
“ปตท. ขอขอบคุณนักวิเคราะห์ นักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ ปตท. ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในวันนี้ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งขององค์กรในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย ปตท. พร้อมดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจรภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล เพื่อร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” ดร.คงกระพัน กล่าวทิ้งท้าย