สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่าสำนักงานความร่วมมือด้านยุติธรรมยุโรป (ยูโรจัสต์) ประกาศว่า “ปฏิบัติการแมกนัส” ประสบความสำเร็จในการปิดแพลตฟอร์มมัลแวร์ ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่สืบสวนจาก 6 ประเทศ รวมถึงเนเธอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ
ยูโรจัสต์รายงานว่า มีเซิร์ฟเวอร์ของมัลแวร์ขโมยข้อมูลมากกว่า 1,200 เครื่อง กำลังทำงานในหลายสิบประเทศ
แพลตฟอร์มอาชญากร “เรดไลน์” และ “เมตา” จะคอยจารกรรมข้อมูลส่วนตัวจากอุปกรณ์ที่ติดไวรัส รวมถึงชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน และข้อมูลที่ถูกบันทึกโดยอัตโนมัติ เช่น ที่อยู่, อีเมล และสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่ออุปกรณ์ของเหยื่อ ทำการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
ข้อมูลซึ่งถูกจารกรรมมา จะถูกขายต่อให้กับเหล่าอาชญากรผ่านตลาดมืด ซึ่งคนเหล่านี้จะคอยซื้อข้อมูลส่วนตัวเพื่อขโมยเงิน, สกุลเงินดิจิทัล และแฮกข้อมูลในภายหลัง
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ปิดบัญชีเทเลแกรม ซึ่งใช้ในการโฆษณาบริการของเรดไลน์และเมตา หลายบัญชี ขณะที่อัยการสหรัฐดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน กับผู้พัฒนาและผู้ดูแลระบบเรดไลน์ โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ในข้อหาฉ้อโกงด้วยการเข้าถึงอุปกรณ์, 5 ปี ในข้อหาสมคบคิดเจาะระบบคอมพิวเตอร์ และ 20 ปี ในข้อหาฟอกเงิน
ทั้งนี้ ยูโรจัสต์และตำรวจเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า ชื่อเมตาที่ใช้โดยแพลตฟอร์มมัลแวร์ ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับบริษัทเมตาซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และวอตส์แอปป์ ที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สอบสวนของสหรัฐตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่ครอบครองข้อมูลซึ่งถูกจารกรรมมา อาจยังซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง และจะยังดำเนินการสอบสวนต่อไป.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES