สวัสดีจ้า “ขาสั้น คอซอง” สัปดาห์นี้ พาไปฟังความรู้สึกของตัวแทนเยาวชนที่ได้เข้าร่วมสวดโอ้เอ้วิหารราย ประจำศาลาราย 12 ศาลารอบพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง กันจ้า

สำหรับโอ้เอ้วิหารราย เป็นบทสวดที่ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี 2558 โดยถือเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติการมาอย่างยาวนานที่จะมีการสวดโอ้เอ้วิหารรายในวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯทรงประกอบพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันอาสาฬหบูชา เทศกาลเข้าพรรษา ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยสำนักพระราชวังได้แจ้งให้กรมการศาสนาดำเนินการหาผู้ฝึกสอน และประสานกระทรวงศึกษาธิการ จัดหานักเรียนมาเข้ารับการฝึกหัดสวด และนำนักเรียนเข้าไปสวดโอ้เอ้วิหารราย พร้อมกับนักสวดพระมหาชาติคำหลวงของกรมการศาสนา นับตั้งแต่เทศกาลเข้าพรรษา ปี 2553 เป็นต้นมา

สำหรับปี 2567 กรมการศาสนา นำนักเรียนจากสถานศึกษาที่ได้รับคัดเลือกจากการประกวดสวดโอ้เอ้วิหารรายเข้าร่วมสวดวันละ 12 โรงเรียน แบ่งการสวดออกเป็น 2 รอบ คือ รอบเช้าเวลา 09.00 น. – 11.00 น. และรอบบ่ายเวลา 13.00 น. – 16.00 น. สวดประจำศาลาราย 12 ศาลารอบพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างวันที่ 16-18 ต.ค. ที่ผ่านมา

ด.ญ.รัชนก เหมกระโทก และ ด.ญ.สมิตานัน โฉมเฉลา จากโรงเรียนมหาวีรานุวัตร บอกว่า เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตที่ได้สวดโอ้เอ้วิหารราย ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง รู้สึกภูมิใจมาก เนื่องจากได้มีการฝึกซ้อมเรียนรู้การสวด และฝึกร้องท่วงทำนองมาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนที่จะมาสวดได้ผ่านการแข่งขันและอบรมการสวดโอ้เอ้วิหารรายจากกรมการศาสนา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนมาสวดจริง ซึ่งผลที่ได้จากการสวดคือการได้ฝึกสมาธิ ส่งเสริมการออกเสียง อักขระ ทำนอง ให้ถูกต้องตามประเพณี และทางโรงเรียนยังได้มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเสริมหลักสูตรให้กับเด็กนักเรียน โดยจัดเป็นชมรมสวดโอ้เอ้วิหารรายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กนักเรียนมีความรู้และฝึกสวดเพื่อเป็นการสืบสานรักษาประเพณีไทยด้วย

ขณะที่ น.ส.ญาดาภรณ์ คงสบสิน และน.ส.ธนารีย์ แซ่เหล้า จากวิทยาลัยเทคโนโลยีตั้งตรงจิตรพณิชยการ กล่าวว่า การสวดโอ้เอ้วิหารราย จะต้องมีวินัยในการฝึกฝน และพัฒนาทักษะทางด้านการอ่านสม่ำเสมอ การใช้เสียงที่ถูกต้องตามทำนองสวดเพื่อการขับร้องที่ไพเราะ และรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้สืบสานวัฒนธรรมไทยที่มีตั้งแต่สมัยโบราณเป็นมรดกของภูมิปัญญาไทย การที่ได้มีโอกาสมาสวดโอ้เอ้วิหาร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ รักษา สืบสานวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าที่มีมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาสู่รุ่นลูกหลานต่อไป

ปิดท้ายที่ ด.ช.สุกฤษฎิ์ ศรีรัตรเมฆินทร์ จากโรงเรียนวัดประยุรวงศาวาส บอกว่า สิ่งที่ได้จากการสวดโอ้เอ้วิหารราย คือ ได้ฝึกทักษะการออกเสียง การเขียน และการอ่าน อาจจะมีความยากบ้าง เนื่องจากต้องอ่านคำ และทำนองซึ่งมีหลายทำนองให้ถูกต้อง แต่ถ้ามีความพยายาม มีการฝึกฝนต่อเนื่องและทำให้ดีที่สุด จะสามารถสวดโอ้เอ้วิหารรายได้ถูกต้องตามแบบแผน โดยโรงเรียนได้ใช้กิจกรรมการสวดโอ้เอ้วิหารรายเป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน พัฒนาฝึกทักษะเด็กนักเรียน ในเรื่องการอ่านคำ อักขระของคำ และฝึกสมาธิให้กับนักเรียน

การสวดโอ้เอ้วิหารราย นอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านการอ่าน การใช้เสียงที่ถูกต้องตามทำนองสวดแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน เกิดความซาบซึ้งในบทสวดที่แฝงด้วยศีลธรรม คติธรรม ที่สำคัญเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมด้านการสวดของไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งเป็นมรดกของภูมิปัญญาไทยในด้านวรรณกรรม อักขรวิธี กาพย์ กลอน และภาษาไทยของชาติ ให้คงอยู่สืบไปด้วย